BAM จับมือ SA บริหารจัดการ NPL-NPA แบบครบวงจร สร้างมูลค่าเพิ่มสินทรัพย์

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- BAM ต่อยอดธุรกิจ จับมือ “กลุ่ม ไซมิส” ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจร่วมกัน ทั้งทางด้าน NPL และ NPA เพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินต่อยอดความสำเร็จในกลยุทธ์หลักของ BAM ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ


บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) และบริษัทบริหารสินทรัพย์ ไซมิส แอนด์ เวลธ์ จำกัด (SWAM) เพื่อร่วมมือทางธุรกิจในด้านบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA)       

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ BAM กล่าวว่า การร่วมมือกับกลุ่ม ไซมิส ในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้ง NPL และ NPA อย่างครบวงจร ซึ่งขอบเขตความร่วมมือเบื้องต้น BAM จะทำหน้าที่เป็นผู้คัดสรรและนำเสนอทรัพย์สินรอการขายให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนา ซ่อมแซม และเพิ่มมูลค่า ทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม ที่ดิน และอาคารพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อ “พลิกทรัพย์ร้างให้กลายเป็นทรัพย์สร้างกำไร” สร้างรายได้ให้กับ BAM อย่างต่อเนื่อง และช่วยลดต้นทุนการถือครองทรัพย์สิน นอกจากนั้น ยังประสานความร่วมมือทางด้านการบริหารจัดการ NPL เพื่อให้การลงนามครั้งนี้ เป็นก้าวที่สำคัญของการเสริมสร้างศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจด้วยการผนึกกำลังความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 องค์กร เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน 


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM กล่าวเพิ่มเติมว่า BAM ยังคงเดินหน้าผลักดัน กลยุทธ์ Partnership ด้วยการบริหารจัดการ NPL และจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยด้านกลุ่มพันธมิตร ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ซึ่งสืบทอดความเชี่ยวชาญจาก “ฤทธา” บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และไซมิส แอนด์ เวลธ์ ผู้รับซื้อและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ โดยพร้อมสนับสนุน BAM ในการเพิ่มมูลค่าทรัพย์และพัฒนาโครงการเพื่อจำหน่าย ให้เช่า และให้บริการธุรกิจโรงแรม และอื่นๆ การลงนามครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ BAM ในฐานะผู้นำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ได้เดินหน้าขยายความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการบริหาร NPL และ NPA อย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน BAM มีหนี้ด้อยคุณภาพในความดูแลกว่า 91,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 498,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขายกว่า 24,000 รายการ ราคาประเมินรวมกว่า 74,000 ล้านบาท

นางสุนันทา สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA)  กล่าวว่า การร่วมมือกับ BAM ครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ SA และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไซมิส แอนด์ เวลธ์ จำกัด (SWAM) สามารถพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก BAM ถือเป็นองค์กรหลักในระบบบริหารจัดการหนี้และทรัพย์สินรอการขายของประเทศ มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 25 ปี และมีจุดแข็งในการเพิ่มมูลค่าทรัพย์ก่อนส่งกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ถือเป็นพันธมิตรที่ช่วยต่อยอดกลยุทธ์ของบริษัทฯ ได้อย่างลงตัว 


“บริษัทฯ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะต่อยอดขีดความสามารถในการพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งจากทรัพย์หลักประกันและทรัพย์อื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ระยะยาว พร้อมยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารทรัพย์สินด้อยคุณภาพทั้ง NPA และ NPL ให้สามารถพลิกฟื้นเป็นทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างมูลค่าใหม่อย่างยั่งยืน ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อองค์กร ลูกหนี้ และเศรษฐกิจโดยรวม พร้อมนำพาทุกฝ่ายไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคง” นางสุนันทา กล่าว

ด้าน นางตุลณยา เองตระกูล กรรมการบริษัท บริหารสินทรัพย์ ไซมิส แอนด์ เวลธ์ จำกัด ( SWAM) ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ กล่าวว่า SWAM จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษาและเป็นที่ปรึกษาทางด้านการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ของ BAM อาทิเช่น กรณีที่ทรัพย์ BAM เข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด ทาง SWAM จะเข้ามาบริหารจัดการ และ/หรือ จะพิจารณาทรัพย์สินประเภทที่อยู่อาศัยและค้าปลีก เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม เพื่อนำมารีโนเวทและจำหน่ายต่อในตลาด เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยระบายทรัพย์ NPA ของ BAM อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความร่วมมือในรูปแบบอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“เราเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเข้าใจในตลาดสินทรัพย์รอการขาย ร่วมกับ BAM และองค์กรชั้นนำทั้งในภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ จะช่วยให้ SWAM สามารถต่อยอดแนวทางการบริหารทรัพย์สินของบริษัทได้อีกมาก ทั้งในด้านการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือครองทรัพย์ รวมถึงเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต” นางตุลณยา กล่าว

ทั้งนี้ ความร่วมมือนี้ดังกล่าวยังเป็นการสร้างโอกาสในการตอบโจทย์ Real  Demand ในตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง โดยเฉพาะทรัพย์สิน NPA และ NPL ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มหลังการรีโนเวท ด้วยองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม การควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง และประสบการณ์ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้สามารถแปลงทรัพย์สินที่ด้อยมูลค่าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดจริง เป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ผ่านการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยการนำทรัพย์สินที่ถูกทิ้งร้างกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และการลดความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส ทั้งยังมีส่วนช่วยลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็นและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]