สุเมธ เตือนคนไทยอย่าเป็นประชาธิปไตยแบบตะแบง

sumet - 19-8-2559 13-52-53กกต. 19 ส.ค. – “สุเมธ” เตือนคนไทยอย่าเป็นประชาธิปไตยแบบตะแบง ต้องดูตัวเอง ใช้เหตุผลนำทาง และร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นแบบของตัวเอง เหมาะกับสถานการณ์ของบ้านเมือง ต้องมีทางออกสำรอง เพื่อไม่ไปสู่การปฏิวัติ ย้ำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถใช้กับการเมืองได้  ระบุการช่วยเหลือคนยากจนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการปักหลักประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศ  


ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เวลา 09.30 น. วันนี้ (19 ส.ค.) นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษหัวข้อ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืน” ให้กับผู้เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 7 ของสำนักงาน กกต.

นายสุเมธ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาชนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ช่วยบ้านเมืองให้มั่นคง อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่เบียดเบียน ไม่คอร์รัปชั่น และว่าตั้งแต่ปี 2512 พวกเราชอบรื้อของเก่า และพยายามหาของใหม่มาแทน


“พระองค์ท่านบอกใจเย็น ๆ ก่อนได้ไหม ก่อนที่จะรื้อของเก่า เราเขียนรัฐธรรมนูญสร้างใหม่ ทิ้งของเก่า ไม่มีสักฉบับที่หยิบของเก่ามาปรับปรุง จะสร้างกี่ครั้งหลักการก็เหมือนกัน แต่เราก็ไม่เอา สุดท้ายก็ไปไม่รอดทุกฉบับ เพราะมันไม่สะท้อนสภาพที่แท้จริงของสังคม ปัจจุบันสถานการณ์รอบโลกเป็นโรคเบื่อระบบเก่า” นายสุเมธ กล่าว

นายสุเมธ ได้ยกพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการต่าง ๆ ว่า พระองค์ได้ทรงทำประชาพิจารณ์ด้วยการลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนของประชาชน และก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระประชวร พระองค์ทรงเรียกทีมงานเข้าเฝ้าฯ เพื่อประชุม ก่อนที่จะเสด็จไปตามท้องที่ต่าง ๆ  ซึ่งพระองค์ก็ได้นั่งพับเพียบบนพื้น และชี้ไปที่เก้าอี้ที่ประทับ แล้วถามว่าทำไมพระเจ้าอยู่หัวต้องเหนื่อย ต้องลำบากทุกวัน เพราะว่าประชาชนยังยากจนอยู่

“เมื่อประชาชนยากจนแล้ว อิสระเสรีภาพเขายังไม่มี และเมื่อเขาไม่มีอิสรภาพ เสรีภาพ  เขาก็เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ ถ้ารัฐบาลมีธรรมาภิบาล ยังไงก็อยู่ได้ ถ้าไม่มีธรรมาภิบาล ต่อให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง หรือเป็นประชาธิปไตยจ๋า คนก็ลุกขึ้นมาขับไล่อยู่ดี เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศ เพราะพฤติกรรมของนักการเมือง จะตัดสินความอยู่รอดหรือไม่ การเข้ามาต้องถูกต้องและต้องดีด้วย“ นายสุเมธ กล่าว


นายสุเมธ กล่าวว่า  การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงช่วยเหลือคนยากจน แท้จริงแล้วกำลังปักหลักประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศ ถ้าประชาชนไม่อิ่มท้อง ก็จะถูกชักจูงได้ เมื่อประชาชนอิ่มท้อง ก็จะชักจูงได้ยาก ดังนั้นนับเป็นสาระสำคัญอย่างมาก

นายสุเมธ  กล่าวว่า จุดอ่อนของไทยคือการไม่ยอมเป็นตัวของตัวเอง ตามคนโน้นคนนี้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม จึงต้องการจะฝากนักการเมืองทั้งหลายที่นั่งเรียนอยู่ในหลักสูตรนี้ ให้ช่วยกันดู เพราะไม่เคยออกแบบอะไรที่เหมาะกับตัวเอง เอะอะก็ต้องประชาธิปไตย

“ก่อนที่จะร่างรัฐธรรมนูญ วางระบบเศรษฐกิจ ต้องเช็กตัวเองดูก่อน ประมาณตัวเองก่อน หากผมเป็นนายกรัฐมนตรีจะใช้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องนำทาง จะต้องประเมินตัวเองก่อน ควรทำในสิ่งที่เราถนัด เศรษฐกิจพอเพียงสอนให้มั่นคง ยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกัน มีความรู้ทันโลก” นายสุเมธ กล่าว

นายสุเมธ กล่าวว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถใช้กับการเมืองได้ การร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเคลียร์ประเทศในทางที่ถูกต้อง ต้องประเมินสถานการณ์ ยกตัวอย่างการร่างรัฐธรรมนูญที่ก่อนจะร่างเราต้องประเมินสถานการณ์ของประเทศก่อนว่าวันนี้กับ 10 ปีที่แล้วเหมือนกันหรือไม่ หรือวันนี้กับก่อนรัฐประหารต่างกันอย่างไร

นายสุเมธ กล่าวว่า  ดังนั้น ต้องร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับสถานการณ์แต่ละช่วง เพราะสถานการณ์จะไม่เหมือนกัน ใช้เหตุผลเป็นเครื่องนำทาง อย่ามัวแต่ตะแบงถึงหลักการประชาธิปไตย โดยไม่ดูสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

“จะเหมือนว่าเราปวดท้องแล้วไปกินยาแก้ไข้ หรือเป็นมะเร็งแล้วให้กินยาหอม ซึ่งก็ไม่หาย เช่นกรณีที่สหรัฐอเมริกาเข้าไปในอิรักและอัฟกานิสถาน ด้วยข้อกล่าวหาไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งก็เข้าไปสถาปนาประชาธิปไตย แต่ตอนนี้เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และจะรอดหรือไม่รอดก็ยังไม่รู้ ดังนั้น เราจะต้องทำให้ดี ให้มีภูมิคุ้มกัน เพื่อจะได้ไม่มีการแก้ไขบ่อย ๆ ผมไม่อยากบอกว่าให้มีคนกลางมาเป็นนายกฯ แต่ก็ต้องมีทางออกเป็นท่อไอเสีย จะได้ไม่จนมุม แล้วนำไปสู่การปฏิวัติอีก และที่เกิดเหตุ เพราะเราล้นเกินไป” นายสุเมธ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย