กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – กรมสรรพากรเตรียมเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจให้รัฐบาลใหม่พิจารณา หลังศึกษาหลายตัว ยันไม่ลดแวตตอนนี้ หวั่นกระทบรายได้หาย 70,000 ล้านบาท พร้อมยกระดับข้าราชการกรมต้องมือสะอาด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยในงานประชุมผู้บริหารสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ กลางปีงบประมาณ 2562 โดยกรมสรรพากรมีหน้าที่วิเคราะห์ ศึกษาข้อมูลด้านภาษีต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันให้รัฐบาลใหม่พิจารณาความเหมาะสมว่าจะนำมาใช้หรือไม่ ซึ่งมองว่าไม่ว่าพรรคการเมืองไหนมาเป็นรัฐบาลกรมก็จะนำเสนอประโยชน์และผลกระทบของการใช้ภาษีแต่ละตัว หากมีรัฐบาลอย่างเป็นทางการก็พร้อมเสนอมาตรการทางภาษีต่าง ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้รัฐบาลพิจารณาทันที ซึ่งทั้งหมดรัฐบาลใหม่เป็นผู้ตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม กรมไม่ได้มองแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีเพียงอย่างเดียว เพราะหากมองมุมเดียวอาจทำให้รายได้ภาษีหายไป ซึ่งจะกระทบรายได้ประเทศและเสถียรภาพของประเทศได้
ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต นั้น ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับอัตราขึ้นหรือลง จากปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่ ร้อยละ 7 เนื่องจากเศรษฐกิจขณะนี้อยู่ในภาวะชะลอตัว ดังนั้น หากมีการปรับลดแวตลงร้อยละ 1 จะทำให้สูญเสียรายได้กว่า 70,000 ล้านบาท อาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยกรมคาดการณ์ว่าปีนี้จะสามารถจัดเก็บภาษีได้เป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาท หลังจาก 8 เดือนแรกของปีงบประมาณจัดเก็บรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท เกินเป้าแล้วกว่า 38,000 ล้านบาท ถือเป็นการเกินเป้าครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการดิจิทัลและการจัดเก็บข้อมูล ทำให้จัดเก็บรายได้สูงขึ้น โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะมีการจัดเก็บรายได้ภาษีลดลงไปบ้างก็ตาม ขณะเดียวกันยังได้เข้มงวดกับการโกง หรือหลบเลี่ยงภาษี จากการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ของกรม
นอกจากนี้ กรมจะขับเคลื่อนอย่างเข้มข้นในส่วนของการเสียอากรแสตมป์สำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาระบบการออกใบกำกับภาษี-ใบเสร็จภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อตรวจจับพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี พร้อมทั้งการศึกษาการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับผู้เสียภาษี เพื่อให้คนที่หลบเลี่ยงภาษีเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น และเชื่อว่าแนวทางต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นการดึงให้ทุกส่วนเข้ามาอยู่ในระบบการเสียภาษีได้ ดังนั้น ทำให้คาดการณ์ว่าปีงบประมาณ 2563 จะจัดเก็บภาษีได้ 2.1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ในงานสัมมนาผู้บริหารกรมสรรพากรทั่วราชอาณาจักร กลางปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 เพื่อขับเคลื่อนองค์กร กรมสรรพากรได้ประกาศเจตนารมณ์ด้วยอักษร HAS “H” ซื่อสัตย์ จะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์และรักษาประโยชน์ส่วนร่วม ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใด ๆ หรือรับจ้างผู้เสียภาษี และมีส่วนได้ส่วนเสีย “A” มุ่งมั่นทุ่มเทกับงานที่ได้รับมอบเสร็จ คอยให้คำปรึกษาที่ดีแก่ลูกน้อง ไม่ปัดความรับผิดชอบ และ “S” มอบใจบริการให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือผู้มาติดต่อรับบริการจากกรมสรรพากร ถือว่าการแสดงเจตนารมณ์ครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ข้าราชการกรมสรรพากรมีคุณธรรมต่อการปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายผู้บริหารเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เพื่อนำระบบดิจิทัลฐานข้อมูลขนาดใหญ่และนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มประสิทธิภาพองค์กรให้มีความเข้มข้น ที่ผ่านมาดำเนินการโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลลดหย่อนภาษีกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ เงินสะสม กบข. และหน่วยรับบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถตรวจสอบข้อมูลลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยตัวเอง อีกทั้งดึงภาคเอกชนร่วมพัฒนาเครื่องมือสิ่งอำนวยความสะดวกในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมทั้งปรับระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาพัฒนาเกณฑ์ความเสี่ยงของผู้เสียภาษี.-สำนักข่าวไทย