วราเทพ แจงศาลคดีทุจริตจำนำข้าว ยันไม่มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว

179ศาลฎีกานักการเมือง 19 ส.ค.-“วราเทพ รัตนากร” เข้าไต่สวนพยานจำเลยนัด 2 คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ยืนยันไม่มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว เผยแผนการรับจำนำข้าวมีวิธีการตรวจคุณภาพข้าวและที่มาอย่างเข้มงวด ศาลฯ นัดไต่สวนพยานจำเลยอีก 3 ปาก 9 ก.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันนี้ (19 ส.ค.) ว่า นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 2 คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

ในวันนี้ ทนายความจำเลย นำนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไต่สวนเพียงปากเดียว สรุปว่า ข้าวที่ชาวนานำมาเข้าโครงการฯ จะมีการคิดคำนวณว่ามีข้าวหักหรือไม่ ซึ่งหากมีข้าวหัก ชาวนาจะได้รับเงินไม่เต็มจำนวนที่กำหนดไว้ในการรับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน และรัฐบาลไม่รับจำนำข้าวอายุน้อยกว่า 110 วัน โดยวิธีการตรวจสอบข้าวนั้น ที่จุดรับจำนำข้าวเปลือกจะมีเครื่องบดเพื่อตรวจสอบลักษณะและคุณภาพข้าวว่าใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยไม่ได้นำตัวอย่างข้าวเปลือกที่นำมาจำนำทดลองในห้องปฏิบัติการ พร้อมยืนยันชาวนาไม่ได้เร่งปลูกข้าวเพื่อจะเข้าสู่โครงการ เพราะเป็นไปได้ยาก ขณะที่ชาวนาผู้ที่จะนำข้าวมาจำนำต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้รู้ว่าปลูกข้าวพันธุ์อะไร จำนวนเท่าใด ในพื้นที่ใด แล้วจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่จะปล่อยให้มีการจำนำข้าวที่ไม่มีคุณภาพ เพราะจะต้องมีผู้รับผิดชอบ


ส่วนรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ออกประกาศเรื่องการนำข้าวเข้าจากต่างประเทศนั้น เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ AFTA ขององค์การการค้าโลก (WTO) ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติให้นำเข้าข้าวได้เฉพาะบางประเภทในสัดส่วนไม่เกิน 200,000 ตัน  โดยประกาศนั้นไม่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว  ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือแจ้งเตือนการทุจริต และเสนอข้อแนะนำโครงการฯ จำเลยก็รับทราบ และมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยจำเลยติดตามผลและปรับปรุงข้อกำหนดต่าง ๆ ให้รัดกุมขึ้น

ขณะที่พยานก็ได้รับมอบหมายให้ร่วมตรวจสอบตัวเลขของอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ระบุผลขาดทุน 3 ฤดูกาล 5.6 แสนล้านบาทเศษนั้น ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์  ใน 2 กรณี คือ อนุกรรมการฯ ได้คิดคำนวณมูลค่าข้าวคงเหลือในบัญชี โดยใช้ราคาเฉลี่ยต่ำสุดที่มาจากราคาต้นทุน ซึ่งเป็นราคาที่รับจำนำ , ราคาขาย และราคาที่ขายได้จริง  แต่กระทรวงพาณิชย์ให้เสนอใช้ราคาต้นทุนซึ่งมีราคาที่สูงกว่า จะทำให้ตัวเลขขาดทุนน้อยลง และ 2.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กับ องค์การคลังสินค้า (อคส.) รายงานตัวเลขข้าวแตกต่างกันถึง 2 แสนตัน  โดยที่ประชุมตรวจสอบแล้วสุดท้ายพบว่าตัวเลขอ้างข้าวหายไม่เป็นความจริง จึงทำให้ผลขาดทุนลดลง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้คัดค้านตัวเลขของอนุกรรมการฯ แต่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวิธีคำนวณที่ทำให้ตัวเลขแตกต่างกัน สำหรับการควบคุมกรอบวงเงินนั้นเป็นตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ

ขณะที่องค์คณะฯ ยังได้ถามพยานเกี่ยวกับข้อสงสัยในวิธีการรับจำนำข้าว ซึ่งนายวราเทพ ตอบว่า การรับจำนำข้าวนั้น ชาวนาใช้สิทธิ์ไถ่ถอนข้าวคืนได้ โดยต้องนำเงินพร้อมดอกเบี้ยมาคืนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้วชาวนาจะได้รับข้าวเปลือกของตนเองกลับคืน แต่ปัจจุบันไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว  ดังนั้นเมื่อรับจำนำข้าวแล้ว จะต้องนำข้าวไปสี ซึ่งหากชาวนาจะมาไถ่ถอน ก็จะได้รับข้าวคืน ส่วนจะเป็นข้าวชนิดใด ขึ้นอยู่กับตามข้อตกลงที่ ธ.ก.ส.ทำไว้กับชาวนา


เมื่อศาลฯ ถามว่ารัฐบาลมีวิธีตรวจสอบอย่างไรว่ามีการนำข้าวต่างประเทศมารับจำนำด้วยหรือไม่ นายวราเทพ ชี้แจงว่า เกษตรกรต้องลงทะเบียนแสดงว่ามีที่ดินทำนา ปลูกข้าวจริง ไม่ใช่มีแค่ที่นา ขณะที่รัฐบาลยังให้มีการตั้งประชาคม โดยมีคนในชุมชนร่วมรับรองว่าชาวนาดังกล่าวปลูกข้าวจริง นอกจากนี้ยังใช้ภาพแผนที่ทางอากาศเทียบเคียงกับพื้นที่จริงด้วยว่าสามารถปลูกข้าวได้หรือไม่ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมยังมีมาตราการให้ทหารร่วมกับตำรวจสกัดกั้นการลอบนำข้าวเข้า แม้ว่าขณะนั้นจะมีเพียงข่าวลือ

เมื่อศาลฯ ถามย้ำว่ามีการตรวจสอบเกษตรกรทุกคนหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถตรวจได้ทุกคน เพราะมีจำนวนมากที่ร่วมโครงการฯ แต่มีการสุ่มตรวจ เช่น 25 คน จาก 100 คน  โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสวมสิทธิ์

หลังศาลฯ ไต่สวนนายวราเทพเสร็จ ก็นัดไต่พยานจำเลยอีก 3 ปาก  ประกอบด้วย นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยและอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์  , นายสัตว์แพทย์ ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระ และนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บ.ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด  ในวันที่ 9 กันยายน 2559 เวลา 09.30 น. และให้ยกเลิกนัดไต่สวนวันที่ 23 กันยายน  เนื่องจากองค์คณะฯ ต้องเข้าร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา

ส่วนที่ทนายความจำเลยแถลงว่าพยานที่ต้องไต่สวนในวันที่ 23 กันยายนนั้น  เมื่อรวมกับพยานที่ยังรอไต่สวนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 อีก 16 ปาก ซึ่งมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอเพิ่มไว้ไต่สวน ศาลฯ พิจารณาแล้วมีเหตุอันควรให้เพิ่มวันไต่สวนพยานจำเลยอีก 3 นัด ในวันที่ 17 มีนาคม , วันที่ 12 พฤษภาคม  และวันที่ 16 มิถุยายน  2560  เวลา 09.30 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

“SIAM PARAGON THE MAGICAL COUNTDOWN CELEBRATION 2025”

สยามพารากอนคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่กำลังสนุกสนานกับบทเพลงจากเหล่าศิลปินดังที่มาเพิ่มความสุขด้วยบทเพลงและโชว์สุดอลังการ

ประชาชนเนืองแน่น ไหว้พระเขี้ยวแก้ว-สวดมนต์ข้ามปี

ประชาชนยังหลั่งไหลสักการะพระเขี้ยวแก้ว ทำบุญ รอสวดมนต์ข้ามปี ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยปีนี้กรมการศาสนาร่วมกับภาคีเครือข่ายและวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดสวดมนต์ข้ามปี

ข่าวแนะนำ

ทยอยกลับกรุง

ถ.มิตรภาพ ช่วง อ.ปากช่อง รถหนาแน่นเต็มพื้นที่

วันหยุดเทศกาลปีใหม่วันสุดท้าย ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้วันนี้ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถช่วง อ.ปากช่อง หนาแน่นเต็มพื้นที่ แต่ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ

ผลสำรวจยอดฮิต

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ 10 อันดับยอดฮิต – ยอดแย่ ปี 2567

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ 10 อันดับอะไรยอดฮิต – อะไรยอดแย่ แห่งปี 2567 มาดูกันว่าปีที่ผ่านมา มีอะไรที่ฮิตสุดๆ และมีอะไรที่ถูกจดจำในทางลบบ้าง

เคาท์ดาวน์ปีใหม่

ทั่วไทยเคาท์ดาวน์คึกคัก เฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่ 2568

ทั่วไทยคึกคัก เฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ต้อนรับศักราชใหม่ 2568 หลายพื้นที่จัดงานยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่แห่เข้าร่วมกิจกรรมคับคั่ง