วราเทพ แจงศาลคดีทุจริตจำนำข้าว ยันไม่มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว

179ศาลฎีกานักการเมือง 19 ส.ค.-“วราเทพ รัตนากร” เข้าไต่สวนพยานจำเลยนัด 2 คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ยืนยันไม่มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว เผยแผนการรับจำนำข้าวมีวิธีการตรวจคุณภาพข้าวและที่มาอย่างเข้มงวด ศาลฯ นัดไต่สวนพยานจำเลยอีก 3 ปาก 9 ก.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันนี้ (19 ส.ค.) ว่า นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ได้ไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 2 คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท

ในวันนี้ ทนายความจำเลย นำนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไต่สวนเพียงปากเดียว สรุปว่า ข้าวที่ชาวนานำมาเข้าโครงการฯ จะมีการคิดคำนวณว่ามีข้าวหักหรือไม่ ซึ่งหากมีข้าวหัก ชาวนาจะได้รับเงินไม่เต็มจำนวนที่กำหนดไว้ในการรับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน และรัฐบาลไม่รับจำนำข้าวอายุน้อยกว่า 110 วัน โดยวิธีการตรวจสอบข้าวนั้น ที่จุดรับจำนำข้าวเปลือกจะมีเครื่องบดเพื่อตรวจสอบลักษณะและคุณภาพข้าวว่าใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยไม่ได้นำตัวอย่างข้าวเปลือกที่นำมาจำนำทดลองในห้องปฏิบัติการ พร้อมยืนยันชาวนาไม่ได้เร่งปลูกข้าวเพื่อจะเข้าสู่โครงการ เพราะเป็นไปได้ยาก ขณะที่ชาวนาผู้ที่จะนำข้าวมาจำนำต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้รู้ว่าปลูกข้าวพันธุ์อะไร จำนวนเท่าใด ในพื้นที่ใด แล้วจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่จะปล่อยให้มีการจำนำข้าวที่ไม่มีคุณภาพ เพราะจะต้องมีผู้รับผิดชอบ


ส่วนรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ออกประกาศเรื่องการนำข้าวเข้าจากต่างประเทศนั้น เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ AFTA ขององค์การการค้าโลก (WTO) ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติให้นำเข้าข้าวได้เฉพาะบางประเภทในสัดส่วนไม่เกิน 200,000 ตัน  โดยประกาศนั้นไม่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว  ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือแจ้งเตือนการทุจริต และเสนอข้อแนะนำโครงการฯ จำเลยก็รับทราบ และมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยจำเลยติดตามผลและปรับปรุงข้อกำหนดต่าง ๆ ให้รัดกุมขึ้น

ขณะที่พยานก็ได้รับมอบหมายให้ร่วมตรวจสอบตัวเลขของอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ระบุผลขาดทุน 3 ฤดูกาล 5.6 แสนล้านบาทเศษนั้น ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์  ใน 2 กรณี คือ อนุกรรมการฯ ได้คิดคำนวณมูลค่าข้าวคงเหลือในบัญชี โดยใช้ราคาเฉลี่ยต่ำสุดที่มาจากราคาต้นทุน ซึ่งเป็นราคาที่รับจำนำ , ราคาขาย และราคาที่ขายได้จริง  แต่กระทรวงพาณิชย์ให้เสนอใช้ราคาต้นทุนซึ่งมีราคาที่สูงกว่า จะทำให้ตัวเลขขาดทุนน้อยลง และ 2.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กับ องค์การคลังสินค้า (อคส.) รายงานตัวเลขข้าวแตกต่างกันถึง 2 แสนตัน  โดยที่ประชุมตรวจสอบแล้วสุดท้ายพบว่าตัวเลขอ้างข้าวหายไม่เป็นความจริง จึงทำให้ผลขาดทุนลดลง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้คัดค้านตัวเลขของอนุกรรมการฯ แต่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวิธีคำนวณที่ทำให้ตัวเลขแตกต่างกัน สำหรับการควบคุมกรอบวงเงินนั้นเป็นตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ

ขณะที่องค์คณะฯ ยังได้ถามพยานเกี่ยวกับข้อสงสัยในวิธีการรับจำนำข้าว ซึ่งนายวราเทพ ตอบว่า การรับจำนำข้าวนั้น ชาวนาใช้สิทธิ์ไถ่ถอนข้าวคืนได้ โดยต้องนำเงินพร้อมดอกเบี้ยมาคืนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้วชาวนาจะได้รับข้าวเปลือกของตนเองกลับคืน แต่ปัจจุบันไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว  ดังนั้นเมื่อรับจำนำข้าวแล้ว จะต้องนำข้าวไปสี ซึ่งหากชาวนาจะมาไถ่ถอน ก็จะได้รับข้าวคืน ส่วนจะเป็นข้าวชนิดใด ขึ้นอยู่กับตามข้อตกลงที่ ธ.ก.ส.ทำไว้กับชาวนา


เมื่อศาลฯ ถามว่ารัฐบาลมีวิธีตรวจสอบอย่างไรว่ามีการนำข้าวต่างประเทศมารับจำนำด้วยหรือไม่ นายวราเทพ ชี้แจงว่า เกษตรกรต้องลงทะเบียนแสดงว่ามีที่ดินทำนา ปลูกข้าวจริง ไม่ใช่มีแค่ที่นา ขณะที่รัฐบาลยังให้มีการตั้งประชาคม โดยมีคนในชุมชนร่วมรับรองว่าชาวนาดังกล่าวปลูกข้าวจริง นอกจากนี้ยังใช้ภาพแผนที่ทางอากาศเทียบเคียงกับพื้นที่จริงด้วยว่าสามารถปลูกข้าวได้หรือไม่ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมยังมีมาตราการให้ทหารร่วมกับตำรวจสกัดกั้นการลอบนำข้าวเข้า แม้ว่าขณะนั้นจะมีเพียงข่าวลือ

เมื่อศาลฯ ถามย้ำว่ามีการตรวจสอบเกษตรกรทุกคนหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถตรวจได้ทุกคน เพราะมีจำนวนมากที่ร่วมโครงการฯ แต่มีการสุ่มตรวจ เช่น 25 คน จาก 100 คน  โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสวมสิทธิ์

หลังศาลฯ ไต่สวนนายวราเทพเสร็จ ก็นัดไต่พยานจำเลยอีก 3 ปาก  ประกอบด้วย นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยและอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์  , นายสัตว์แพทย์ ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระ และนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บ.ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด  ในวันที่ 9 กันยายน 2559 เวลา 09.30 น. และให้ยกเลิกนัดไต่สวนวันที่ 23 กันยายน  เนื่องจากองค์คณะฯ ต้องเข้าร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา

ส่วนที่ทนายความจำเลยแถลงว่าพยานที่ต้องไต่สวนในวันที่ 23 กันยายนนั้น  เมื่อรวมกับพยานที่ยังรอไต่สวนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 อีก 16 ปาก ซึ่งมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอเพิ่มไว้ไต่สวน ศาลฯ พิจารณาแล้วมีเหตุอันควรให้เพิ่มวันไต่สวนพยานจำเลยอีก 3 นัด ในวันที่ 17 มีนาคม , วันที่ 12 พฤษภาคม  และวันที่ 16 มิถุยายน  2560  เวลา 09.30 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 […]

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]