ทำเนียบฯ 19 ส.ค. – “พล.อ.ประยุทธ์” ขอเลือกที่จะไม่พูดอะไรเรื่องนายกฯ คนนอก ระบุเป็นเรื่องอนาคต อย่ากลัวอะไรที่มองไม่เห็น ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขอให้กติกาพร้อมก่อน ค่อยหาตัวนักมวย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คาดวันเลือกตั้งจะอยู่ประมาณวันที่ 10 ธันวาคม 2560 ว่า เรื่องนี้ นายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงไปแล้ว การทำงานต้องเดินตามแม่น้ำ 5 สาย เริ่มต้นด้วยกฎหมายลูกต้องแล้วเสร็จก่อน เมื่อเสร็จแล้ว ก็ต้องนับต่อมีช่วงเวลาต่อจากนี้ จะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ได้บอกไว้แล้วว่าเป็นช่วงปลายปี 60 ใครพูดอะไรต่อก็ไปถามกันเอง ไม่ว่าอะไร ทุกคนมีสิทธิที่จะพูด และต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสนายกรัฐมนตรีคนนอก ว่า ที่พูดไปวันนั้นคือ ถ้าไม่มีใครค่อยมาถามตน เป็นเรื่องของอนาคต เรื่องกฎหมายและรัฐธรรมนูญ กฏหมายว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น สถานการณ์เกิดอะไรขึ้นก็ว่าไปตามนั้น ทำไมต้องมาคอยระวังตนและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แค่สองคน ไม่มีคนอื่นหรือ ตามรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองก็ต้องเสนอรายชื่อคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มา แต่ที่จะมาถามตนก็ต่อเมื่อหาใครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ติดขัดอะไร ตนจึงจะดำเนินการขออย่ากลัวอะไรที่ยังมองไม่เห็น
ต่อข้อถามว่าหากมีอุบัติเหตุ ทางการเมือง และสมาชิกวุฒิสภาเสนอชื่อให้ เป็นนายกรัฐมนตรี จะรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าส.ว.จะเสนอชื่อได้หรือไม่ อย่าพึ่งถามตอนนี้ยังไม่รู้ เมื่อถามต่อว่าไม่ปิดโอกาส ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ปิดและเปิด ขอให้ตรงนี้จบก่อน ไปทีละขั้น ตนเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่าพร้อมหรือไม่ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้กติกาพร้อมก่อน นักมวยเดี๋ยวค่อยหาตัวกัน ในเมื่อกติกายังไม่พร้อม กรรมการยังไม่พร้อม จะมาหานักมวยก่อนแล้วจะรู้กติกาหรือไม่ ต้องหากติกาเป็นหลัก ถึงจะมีนักมวย และต้องหากรรมการที่เหมาะสม ต่อข้อถามว่านายกรัฐมนตรี ต่อยมวยเก่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนไทยต่อยมวยเป็นทุกคน สมัยเด็กก็ฝึก โรงเรียนนายร้อยก็สอน พร้อมถามสื่อมวลชนว่า จะลองไหมล่ะ แต่ตอนนี้เจ็บแขนอยู่
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมืองโดยเฉพาะผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นหลังออกเสียงประชามติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนเหล่านั้นทำผิดกฏหมายหรือไม่ หากทำผิดกฏหมายก็ไม่สามารถละเว้นได้ กฎหมายเขียนแล้วว่าหากทำแล้วมีโทษ ซึ่งหากรู้ว่ามีโทษแล้วยังทำ ก็ต้องเป็นไปตามกฏหมาย คนที่จะปล่อยหรือจะลงโทษก็คือศาลยุติธรรม ระหว่างนี้มีการจับกุม ดำเนินคดีหลายคดี อย่าทำให้กฎหมายเสีย อย่าไปให้ท้ายเขา
“เคยบอกแล้วว่าสิทธิเสรีภาพบางอย่างอาจถูกจำกัดบ้างแต่พอห้ามกลายเป็น ไปขับเคลื่อนให้เกิดเรื่องราวต้องการให้ เจ้าหน้าที่จับกุมและนำไปเป็นประเด็นเคลื่อนไหวต่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน ถามหน่อยว่ารักประเทศไทยแค่ไหน ที่พูด ๆ กันไม่มีใครพูดซักคนว่าเมื่อเข้ามาบริหารประเทศจะทำอย่างไรต่อไป”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย