กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 77.7 ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน เหตุประชาชนกังวลความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทำให้กำลังซื้อชะลอตัว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2562 พบว่า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 77.7 ต่ำสุดในรอบ 19 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นหลัก สะท้อนจากดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี อยู่ที่ระดับ 71.9 รวมถึงความกังวลจากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่กระทบต่อเศรษฐกิจและการส่งออกไทย และราคาสินค้าเกษตรยังคงทรงตัวระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อชะลอตัว และคาดว่า ผู้บริโภคจะยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรก เพราะสัญญาณเศรษฐกิจกิจเข้าสู่ขาลงชัดเจนขึ้น แต่คงต้องติดตามและยังมองว่าหากสงครามการค้าสหรัฐและจีนไม่เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้ เชื่อว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม จากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเห็นคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เดือนกรกฎาคมนี้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีเศรษฐกิจน่าจะใกล้เคียงกับทีมเดิมเข้ามาสานต่องานจะสามารถดึงความเชื่อมั่นให้ดีขึ้นได้ แม้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 อาจจะล่าช้าไปถึงต้นปีหน้า ทำให้เกิดสุญญากาศครึ่งปีหลัง แต่รัฐบาลสามารถใช้งบกลางหรืองบที่เหลือแต่ละกระทรวง เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5
ส่วนความกังวลว่าจะมีการเคลื่อนไหวนอกสภา หากเป็นไปในกรอบจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถทำได้ แต่หากเกิดความรุนแรงถึงขั้นสถานทูตต่างชาติออกมาเตือนจะกระทบเศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดไว้แน่นอน เพราะมีผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยวในประเทศ จากสถิติในรอบ 60 ปี เศรษฐกิจไทยจะติดลบจากปัจจัยภายนอกเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาแม้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หรือ เหตุการณ์ชุมนุมปิดพื้นที่กรุงเทพมหานคร เศรษฐกิจก็สามารถขยายตัวเป็นบวกได้.-สำนักข่าวไทย