ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ.65 ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

กรุงเทพฯ 9 มี.ค.- โอไมครอน ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยไม่รวมผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเผย ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ระดับ 43.3 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และค่าดัชนีต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่ตุลาคม 2564 เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลถึงการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ความกังวลต่อสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เข้ามาซ้ำเติม ที่อาจจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ให้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และกระทบกับต้นทุนการผลิตสินค้า ซึ่งอาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก ที่จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในอนาคต และส่งผลทางจิตวิทยาในเชิงลบต่อกำลังซื้อในประเทศ และ การท่องเที่ยว รวมถึงการจ้างงานในอนาคต 

ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เช่นกัน อยู่ที่ระดับ 36.1 จากเดือน มกราคม ที่ระดับ 37.2 เนื่องจากตัวชี้วัดในทุกด้านทั้งเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภค การลงทุนการท่องเที่ยว ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า การค้าชายแดน และภาคบริการ รวมถึงการจ้างงาน มีการปรับตัวลดลงทั้งหมด แม้จะมีปัจจัยบวกจาก การที่สภาพัฒน์ เผย GDP ไตรมาส4 ปี2564 ขยายตัว 1.9%  กบง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ต่อปี มาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจของรัฐ  เช่น ชอปดีมีคืน คนละครึ่ง การฉีดวัคซีนป้องกันดควิดทั่วโลก การส่งออกเดือนธันวาคม ปี2564 ขยายตัว และราคาพืชผลทางการเกาตรปรับตัวดีขึ้นแต่ขณะเดียวกันเริ่มมีสัญญาณลบมากขึ้นจากความกังวลสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอไมครอน สงครามรัสเซีย – ยูเครน ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมัน ค่าเงินบาทที่แข็งค่า และการปรับนโยบายรักษาผู้ป่วยโควิดของรัฐ ภาคเอกชน จึงอยากให้ภาครัฐ เร่งหาแนวทางป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน หามาตรดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงวขึ้น มาตรการช่วยเหลือบรรเทาราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้ามาตรการบรรเทาภาระหนี้สิน –แก้ไขปัยหาหนี้ครัวเรือน 


อย่างไรก็ตาม แม้ในเดือนกุมภาพันธ์ ผลกระทบจากความขัดแย้ง จะยังไม่ส่งผลกระทบ แต่ราคาน้ำมันดิบ ก็ทรงตัวสูงและขณะนี้ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ชะลอลง และจากการประเมินผลกระทบจากกรณีพิพาทรัสเซียกับยูเครนที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งผลกระทบทางตรง จะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไปพื้นที่พิพาทลดลง  70-90% เทียบกับปีที่แล้ว รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง และรายได้จาการส่งแรงงานไปทำงานในต่างประเทศลดลง รวมไปถึงการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญ ทั้งเหล็ก ที่ใช่ผลิตกระป๋อง ปุ๋ย และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่กระทบกับเกษตรกรในประเทศ

ทั้งนี้ ผลกระทบทางอ้อมจะมีผลให้ค่าเงินบาทผันผวน เกิดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ การส่งออกไปยังประเทศอื่น โดยเฉพาะยุโรปชะลอลง  อัตราเงินเฟ้อเพิ่งสูงขึ้น จากราคาน้ำมันดิบที่มีโอกาสแตะไปถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอลง โดยมีการประเมินในเบื้องต้น หากสถานการณ์ลากยาวไปถึงสิ้นปีนี้ ในภาพรวมจะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย กว่า 244,750 ล้านบาท ให้หดตัวลง 1.5% โดยจะขยายตัวเพียง 2.7% และอัตรเงินเฟ้อจะสูงถึง 4.5-5.5% หรือ กรณีที่ดีที่สุดสถานการณ์จบภายใน 3 เดือน จะมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 73,425  ล้านบาท กระทบGDP 0.5% เหลือโตอยู่ที่ 3.7%  และอัตราเงินเฟ้อ จะเฉลี่ย 3-3.5%  ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมัน เฉลี่ย 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล

อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังไม่มีปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงไว้ที่ 3.5-4.5% เพราะยังเป็นไปได้อยู่หากสถานการณ์ความขัดแย้งคลี่คลายเร็วกว่าที่คิด และยังต้องติดตามราคาพลังงาน โดยเฉพาะภาครัฐ จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปถึงเมื่อไหร่ รวมถึงสถานการณ์โอมิครอน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  โดยจะปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยอีกครั้งช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์นี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน