“ธนาธร” แถลงขอโทษประชาชน

หอประชุมทีโอที 6 มิ.ย. – “ธนาธร” แถลงขอโทษประชาชน หยุดภารกิจสืบทอดอำนาจไม่สำเร็จ ชี้ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียง สวนมติพรรค เป็น ส.ส.ที่กล้าหาญสุดในสภา


ภายหลังจากที่ประชุมรัฐสภาได้ลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี จากจำนวนสมาชิก 747 คน ผลการลงคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รวม 500 เสียง ขณะที่มีผู้เลือกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รวม 244 เสียง


นายธนาธร ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวขอโทษประชาชนที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ ในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. พร้อมชี้ว่า วันนี้พวกเราไม่ได้แพ้ แต่ถูกปล้นชัยชนะไป ยอมรับว่า เมื่อวานนี้ยังมีความหวังเล็กๆ ซึ่งแม้จะมีความเป็นไปได้เพียงน้อยนิด แต่ก็ยังหวังว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยจะตัดสินใจบนหลักการของประชาธิปไตย บนหลักของความเป็นธรรม แต่เมื่อวานก็ได้ทราบกันแล้วว่า ผลการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร

นายธนาธร ย้ำว่า พรรคการเมืองที่ร่วมกันต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ทั้ง 7 พรรคได้ต่อสู้จนถึงที่สุด สู้จนยกสุดท้าย ยืนยันว่าได้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ ไม่มีการยอมแพ้ระหว่างทาง โดยต่อสู้ภายใต้กรอบ กฎ และกติกาที่ฝ่ายรัฐประหารได้วางเอาไว้

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนบอกเสมอว่า เป็นเพียงสมรภูมิหนึ่งในการเดินทางอันยาวไกลให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยในประเทศไทย เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ท้ายที่สุดชัยชนะจะเป็นของประชาชน เผด็จการจะไม่สามารถต้านทานสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดไป ประชาชนจะยิ่งร่ำร้องหาเสรีภาพ ร่ำร้องหาความเป็นธรรม


“วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในการหยุดยั้งประชาธิปไตย พวกเขาต้องใช้ต้นทุนทางสังคมมากน้อยเพียงใด ต้นทุนเหล่านี้มีแต่จะหดหายไป เพราะฉะนั้น ประชาชนอย่าสิ้นหวัง นี่ไม่ใช่เวลาสิ้นหวัง ความหวังยังคงอยู่กับเรา”

นายธนาธร กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะรณรงค์อย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ และประชาชนจะมองเห็นเอง วันนี้ประชาชนเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย เพื่อความเป็นธรรมที่แหลมคม ซึ่งหากเราเดินหน้ารณรงค์อย่างเข้มแข็งต่อไป ประชาชนจะตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเอง

นายธนาธร ยังกล่าวขอบคุณแกนนำทั้ง 7 พรรค ที่เสนอชื่อให้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และขอบคุณ ส.ส. ทั้ง 244 คน ที่ลงคะแนนเสียงให้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมอบให้ โดยเฉพาะประชาชนในทุกภูมิภาคที่ได้พบเจอ อย่างไรก็ตาม วันนี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนรักประชาธิปไตยยังทำงานหนักไม่พอ หากเราไม่สู้มากกว่านี้ ลูกหลานของเราจะเติบโตมาในสังคมที่ไม่มีความเป็นธรรม ไม่มีสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น เราต้องร่วมกันสู้ต่อไป สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ อย่าเพิ่งหมดหวัง

ทั้งนี้ ในช่วงของการตอบคำถามสื่อมวลชน นายธนาธร ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย งดออกเสียง สวนมติพรรค ว่าเป็น ส.ส.ที่มีความกล้าหาญที่สุดในรัฐสภา เมื่อวานนี้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่