กรุงเทพ ฯ 27 พ.ค. – ตลท.เผยไตรมาส 1/62 ยอดขายบริษัทจดทะเบียนโตร้อยละ 4.4 รวม 2.92 ล้านล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิ 253,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.3 เนื่องจากผลประกอบการของหมวดธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีภัณฑ์ปรับลดลง ขณะที่หมวดธุรกิจอาหารและอสังหาริมทรัพย์เติบโตดีมาก
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า หลักทรัพย์จดทะเบียน 668 หลักทรัพย์ หรือคิดเป็นร้อยละ 94.4 จากทั้งหมด 708 หลักทรัพย์ นำส่งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 พบว่า หลักทรัพย์จดทะเบียนมียอดขายรวม 2,921,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core operating profit) 273,028 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.3 และมีกำไรสุทธิ 252,500 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.3 จากช่วงเดียวกันในปีก่อนมาจากการที่ธุรกิจหมวดพลังงานและปิโตรเคมีภัณฑ์ได้รับผลกระทบเรื่องค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาน้ำมันที่ลดลงตามภาวะตลาดต่างประเทศ ประกอบกับหมวดพาณิชย์และหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคมีการแข่งขันสูงขึ้น
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) ปรับลดลงมาอยู่ที่ ร้อยละ 8.6 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 9.9 จากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนที่ไม่สูงเท่าในไตรมาส 1/2561
สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.32 เท่า จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 1.21 เท่า หมวดธุรกิจที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น คือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเติบโตดีจากสินค้าประเภทเครื่องดื่ม อาหารสด และการขยายตลาดในภูมิภาค CLMV หมวดธนาคารที่เติบโตดีตามการขยายสินเชื่อ และหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่ผู้บริโภคเร่งโอนโครงการก่อนที่มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะบังคับใช้ในไตรมาส 2/2562.-สำนักข่าวไทย