บุรีรัมย์ 21 พ.ค. – คดีอุกฉกรรจ์ที่มีหนุ่มวัย 29 ปี บุกยิงอดีตภรรยาในงานศพของพ่อตา จนบาดเจ็บสาหัส และยิงอาสาสมัครตำรวจบ้านเสียชีวิตขณะเข้าระงับเหตุ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 5 ข้อหาหนัก อ้างก่อเหตุเพราะโกรธแค้นที่ถูกอดีตภรรยาหลอกเอาเงินไปเลี้ยงดูชายอื่น
นายธิพงษ์ วิเศษ อายุ 29 ปี ชาว ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ สารภาพถึงสาเหตุที่บุกยิงอดีตภรรยาจนบาดเจ็บสาหัส ขณะช่วยงานศพอดีตพ่อตา ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.กระสัง อ.สตึก เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) และยังใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงนายทองแดง อ่อนทา อายุ 65 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน เสียชีวิตขณะเข้าระงับเหตุ โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่อดีตภรรยามักขอเงินครั้งละ 500-1,000 บาท ทั้งที่แยกทางกันไปเมื่อ 2 ปีก่อน กระทั่งล่าสุดถูกขอเงินอีก 3,000 บาท จึงเข้าใจผิดคิดว่าถูกหลอกเอาเงินไปเลี้ยงชายอื่น จนมีปากเสียงกันในงานศพ ประกอบกับดื่มสุราตั้งแต่เช้า ทำให้ขาดสติ จึงกลับไปเอาปืนไทยประดิษฐ์ที่บ้านพักมายิงอดีตภรรยา ส่วนการยิงนายทองแดง อ้างว่าถูกตบหน้า จึงบันดาลโทสะ พร้อมขอโทษทั้ง 2 ฝ่าย ที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิต
พนักงานสอบสวนแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ทั้งฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, ครอบครองยาบ้า และเสพยาเสพติด ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านที่โกรธแค้น ตะโกนสาปแช่งผู้ต้องหาที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ และระหว่างนั้นลูกชายของตำรวจบ้านที่เสียชีวิตได้วิ่งเข้าไปจะทำร้ายผู้ต้องหา จนเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ตำรวจจึงต้องกันตัวออกไป จากนั้นได้เร่งทำแผนฯ ให้เสร็จสิ้น โดยใช้เวลา 10 นาที ก่อนคุมตัวผู้ต้องหากลับไปยัง สภ.สตึก
ด้านอดีตภรรยาของผู้ต้องหา ซึ่งบาดเจ็บหลังถูกยิงที่หัวไหล่ ได้ขออนุญาตโรงพยาบาลออกมาจัดการงานศพบิดา พร้อมให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ผู้ต้องหาติดสุราและยาเสพติด ในอดีตชอบทำร้ายร่างกาย จึงต้องเลิกรากันไป และหนีไปทำงานที่กรุงเทพฯ จากนั้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ได้กลับมาบ้าน เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลบิดา อดีตสามีทราบข่าว จึงตามมาง้อ กระทั่งตกเย็นวันเดียวกัน อดีตสามีได้นำมีดมาขู่ฆ่า แต่ถูกห้ามปรามเอาไว้ได้ และท้ายสุดในวันเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงนำปืนมาไล่ยิง โดยนัดแรกยิงไม่ออก แต่นัดที่ 2 ถูกยิงที่ไหล่จนบาดเจ็บ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด. – สำนักข่าวไทย