กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – จนถึงวันนี้การฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ หลายพรรคยังไม่ประกาศท่าทีชัดเจนว่าจะอยู่ขั้วไหน ขณะที่กระแสรัฐบาลขั้วที่ 3 ยังมีต่อเนื่อง แต่จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ติดตามจากรายงาน
กระแสรัฐบาลขั้วที่ 3 ยังมีต่อเนื่อง เพราะสูตรรัฐบาลยังไม่สมบูรณ์ ที่น่าจับตา คือ ท่าทีของภูมิใจไทย ที่อาสาเดินหน้าประสานประชาธิปัตย์ และแท็กทีมชาติไทยพัฒนาและชาติพัฒนา พรรคที่ยังไม่ประกาศขั้วชัด โดยจะไปไหนไปกัน 116 เสียง แว่วมาว่าได้ต่อสายพูดคุยกันแล้ว
ภูมิใจไทยยังพกเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล ทั้งเรื่องความจงรักภักดี ไม่มีความขัดแย้ง ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย และต้องรับนโยบายไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการปลูกกัญชาเสรี ถ้าไม่มีพร้อมบายเป็นฝ่ายค้าน
ด้านประชาธิปัตย์ ขั้วยังไม่ชัด มอบให้กรรมการบริหารพรรคไปประสานทิศทางกับพรรคการเมืองอื่น แต่ก่อนหน้านี้เสียงแตก ฝ่ายที่สนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค มี 25 เสียง ไม่อยากร่วมรัฐบาล ส่วนฝ่ายสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รวมกัน 27 เสียง พร้อมสนับสนุนพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ได้แบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีให้ประชาธิปัตย์แล้วอย่างน้อย 6-7 ที่นั่ง ทั้งยังจะยกเก้าอี้ประธานรัฐสภาให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
หลายคนสงสัยสูตรรัฐบาลที่ยังไม่ชัด เป็นเพราะต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรียังไม่ลงตัว หรือยึดคติถือไพ่ใบสุดท้าย เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือ อย่างไรก็ตาม ในมุมของนักวิชาการหลายคน มองเรื่องรัฐบาลขั้วที่ 3 เป็นไปได้ค่อนข้างยากที่จะรวมเสียงให้ได้เกิน 376 เสียง หากสามารถรวมได้ก็ไม่พ้นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ยากต่อการบริหารประเทศ ดังนั้น ขั้วที่ยังมีแต้มต่อ หนีไม่พ้นพลังประชารัฐ
นักวิชาการบางคนเห็นว่า สูตรในการตั้งรัฐบาลจะชอบธรรมและสมบูรณ์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะต้องได้เสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรีเกินกึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา
ชอตสำคัญจากนี้ ต้องจับตาการเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ถ้าขั้วใดครองเก้าอี้ดังกล่าวได้ จะทำให้เห็นทิศทางชัดขึ้นว่า ฝ่ายใดจะได้เป็นรัฐบาล. – สำนักข่าวไทย