กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – ปตท.สผ.เจาะหลุมแหล่งปิโตรเลียม “สินภูฮ่อม” เพิ่ม เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าก๊าซน้ำพอง ตามแผนพีดีพีใหม่
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมให้แก่บริษัท พีทีทีอีพี เอสพี ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการแหล่งก๊าซสินภูฮ่อมออกไปอีกเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทาง PTTEP เตรียมเจาะหลุมเพิ่มอีก 1-2 หลุมภายในปีนี้ ใช้เงินลงทุนประมาณ 20-30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรักษาระดับกำลังการผลิตไว้ที่ 130 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
โดยโครงการสินภูฮ่อมมีสัญญาป้อนก๊าซให้กับโรงไฟฟ้าน้ำพอง โรงไฟฟ้าน้ำพอง จ.ขอนแก่น กำลังการผลิต 650 เมกะวัตต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะเป็นโรงไฟฟ้าก่อสร้างใหม่เข้าสู่ระบบปี 2568 ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ (พีดีพี 2018) ระบุชัดเจนว่าเป็นโรงไฟฟ้าหลัก โดยอัตราการเรียกก๊าซเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าน้ำพองอยู่ที่ 100-130 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากช่วงที่มีปริมาณน้ำมากก็จะเรียกก๊าซน้อย ซึ่งการต่ออายุสัญญาแหล่งสินภูฮ่อมรัฐบาลได้ภาษี ค่าภาคหลวง สร้างประโยชน์ สร้างงาน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศด้วย
นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ปริมาณสำรองปิโตรเลียมของโครงการแหล่งก๊าซสินภูฮ่อมสิ้นปี 2560 ประเมินว่าจะมีก๊าซธรรมชาติ 114.27 พันล้านลูกบาศก์ฟุต และก๊าซธรรมชาติเหลว 0.38 ล้านบาร์เรล และหากมีการลงทุนเพื่อสำรวจและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีโอกาสพบทรัพยากรปิโตรเลียมเพิ่มเติม ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติประมาณ 527 พันล้านลูกบาศก์ฟุต และก๊าซธรรมชาติเหลวประมาณ 1 ล้านบาร์เรล โดยการต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมทั้ง 2 แปลงสำรวจออกไปอีก 10 ปี รัฐจะได้รับรายได้ ประกอบด้วย ค่าภาคหลวงประมาณ 284 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาษีเงินได้ปิโตรเลียมประมาณ 621 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินผลประโยชน์ซึ่งผู้รับสัมปทานเสนอเพิ่มเติมให้แก่รัฐประมาณ 74 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งสิ้น 979 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นกว่า 30,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย