ปตท.เน้นประหยัดรับมือสงครามการค้า

กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – “ชาญศิลป์” สั่งกลุ่ม ปตท.ประหยัด พร้อมปรับตัวรับสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ-จีน มั่นใจผลประกอบการที่เหลือจะดีกว่าไตรมาส 1/62 ลั่นปิดบริษัทในเครือ 20-30 แห่งไม่ได้ทำตามคำสั่งรัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับผลงานทางธุรกิจ


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ที่ขณะนี้เริ่มมีผลกระทบในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออก ซึ่งกำชับบริษัทในเครือให้ดำเนินการโดยระมัดระวังและประหยัดมากที่สุด และในด้านภาคการส่งออกเม็ดพลาสติกก็ได้ขยายตลาดให้กว้างขวางมากที่สุด เช่น ไปตลาดแอฟริกา ตลาดอินเดีย เป็นต้น ส่วนโรงงานทั้งปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน กรณีการปิดซ่อมบำรุง (Shut Down ) ก็ได้ให้ดูว่า ทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ ระยะเวลาสั้น เพื่อให้เกิดต้นทุนต่ำที่สุด

“เราติดตามสถานการณ์สงครามการค้าและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก ทำให้ราคาน้ำมันผันผวนและราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นมาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก็มีผลต่อการทำธุรกิจได้กำชับบริษัทในเครือให้ประหยัดและวางแผนรับมือ” นายชาญศิลป์ กล่าว


นายชาญศิลป์ กล่าวด้วยว่า ผลประกอบการที่เหลือปีนี้ คาดว่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/2562  ที่ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 29,300 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 26.3% แต่เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 4/2561 หรือ 50% ซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ผลประกอบการจะต้องดีขึ้นกว่าไตรมาส 4/2561  โดยส่วนที่มีผลกระทบหนักก็คือในส่วนของปิโตรเคมีที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับน้ำมันดิบ (SPREAD )ที่ต่ำลง แต่นับจากช่วงนี้ไปราคาน้ำมันที่ดีขึ้นประกอบกับโรงกลั่นชัทดาวน์ ส่วนต่างราคา ก็คงจะดีขึ้นประกอบกับการบริหารงานด้านต่าง ๆ เชื่อว่าผลดำเนินการจะดีขึ้น   

นายชาญศิลป์ กล่าวด้วยว่า ปตท.ได้รายงานต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีวานนี้ (15 พ.ค.) ในเรื่องการปิดบริษัทในเครือ 20-30 แห่ง จากทั้งหมดกว่า 200แห่ง โดยการดำเนินการปิด-เปิดบริษัทขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในการบริหารธุรกิจของ ปตท. ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสั่งการของรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด  ซึ่งขึ้นอยู่กับผลดำเนินงานและโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งความจำเป็นในการดำเนินงาน  โดยบริษัทที่เหลือส่วนใหญ่มีแนวโน้มธุรกิจที่ดีและมีกำไร 

“ที่ผ่านมา ปตท.ดำเนินการมา 40 ปี ก็มีการจัดตั้งบริษัทตามช่วงสถานการณ์และโอกาสในช่วงนั้น ๆ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วไม่เหมาะสม หรือธุรกิจขาดทุน ก็ต้องพิจารณาปิดกิจการไป เช่น ปาล์มอินโดนีเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากกรณียุโรปไม่รับซื้อปาล์ม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อีกกว่า 200 แห่ง ส่วนใหญ่ก็มีกำไร”นายชาญศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี