สงครามการค้าพ่นพิษจ่อปรับลดจีดีพี-ส่งออกไทย

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – ธนาคารโลก – กสิกรไทย จ่อปรับลดจีดีพีและส่งออกไทยปีนี้ ผลจากสงครามการค้าพ่นพิษ


นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทยธนาคารโลก กล่าวในงานสัมมนาแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ค่าเงิน และตลาดหุ้น ว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ธนาคารโลกจะมีการปรับคาดการณ์อัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยใหม่ จากที่คาดว่าโตร้อยละ 3.8 ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.9 ในปี 2563 โดยธนาคารโลกกำลังเก็บข้อมูลเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม แต่ยอมรับว่ามีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากเศรษฐกิจโลกโตลดลง จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้มีความเสี่ยงจะปรับลดจีดีพีเศรษฐกิจไทย

“สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความไม่แน่นอนมากขึ้น หลังจากทั้ง 2 ประเทศมีการขึ้นภาษีตอบโต้กัน โดยต้องติดตามเศรษฐกิจจีนหากเติบโตน้อยลงจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและมาเลเซีย แต่เบื้องต้นประเมินว่าเศรษฐกิจจีนยังโตร้อยละ 6 ซึ่งถือว่าชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลกระทบจึงยังไม่ได้เกิดขึ้นมากในปีนี้ แต่ยอมรับว่าความไม่แน่นอนทางการค้ายังมีอยู่สูงมาก จนกระทบการลงทุนให้ชะลอตัว ซึ่งการลงทุนภาคเอกชนในประเทศไทยเติบโตน้อยกว่าปีที่แล้ว” นายเกียรติพงศ์ กล่าว


ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนใน 1-2 ปีนี้ เพราะหลายโครงการลงทุนผ่านขั้นตอนการประมูลและการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้ว และเริ่มทยอยเบิกงบลงทุนบางส่วน แต่ที่น่ากังวล คือ การลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า หลายโครงการอาจจะชะลอออกไป เพราะยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

นายกอบสิทธิ์  ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 3.7 รวมทั้งลดการขยายตัวของการส่งออกที่คาดว่าโตร้อยละ 3.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ -จีน โดยรอตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่จะรายงานในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคมนี้ก่อน ซึ่งทางธนาคารกสิกรไทยคาดว่าจีดีพีไตรมาสแรกจะโตร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และโตร้อยละ1.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2561


นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า สงครามการค้ายังส่งผลกระทบให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนสูง โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่องถึง 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะนักลงทุนมีมุมมองบวกต่อเงินบาทไทยในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จึงเข้ามาพักเงินในตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น รวมถึงกระแสข่าวที่สหรัฐอาจจะเพิ่มรายชื่อประเทศไทยเป็นกลุ่มประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงิน ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าแนวโน้มเงินบาทจะอ่อนค่าในระยะข้างหน้า แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสหรัฐจะไม่ขึ้นบัญชีประเทศไทย เนื่องจากเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และแข็งค่าขึ้นเป็นอันดับที่ 4  เมื่อเทียบเงินสกุลภูมิภาค ซึ่งการที่เงินบาทแข็งค่าไม่เป็นผลดีต่อการส่งออก ทำให้ความสามารถทางการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยลดลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไทยสามารถชี้แจงต่อสหรัฐได้ว่า ทางการไทยไม่ได้แทรกแซงค่าเงิน เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทยยังมองว่าแนวโน้มเงินบาทในระยะต่อไปมีโอกาสอ่อนค่าลง โดยสิ้นปีนี้ยังคงเป้าหมายที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะจะมีการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนไทยอีกกว่า 19,000 ล้านบาทในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการหมดฤดูไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย รวมทั้งการส่งออกของไทยปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ทำใหการเกินดุลการค้าของไทยน่าจะลดลงกว่าปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี