รัฐสภา 22 ส.ค.- เลขานุการวิป สนช. ย้ำ การปรับแก้ร่าง รธน.ให้สอดคล้องคำถามพ่วงประชามติขึ้นอยู่กับ กรธ. ชี้ คำว่า “พิจารณาให้ความเห็นชอบ” ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550หมายถึง กระบวนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายสมชาย แสวงการ เลขานุการกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวถึงข้อเสนอการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงประชามติเรื่องการให้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ให้ความสำคัญกับการปฏิรูป ดังนั้น การจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความสมบูรณ์ สังคมไทยควรมีระยะนิ่งที่ไม่เกิดการชุมนุมหรือมีความขัดแย้ง เพื่อปูทางให้เกิดการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง และต้องมีหลักประกันที่ทำให้การปฏิรูปเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี ขณะเดียวกัน ร่างรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาร่วมกันพิจารณากฎหมายเรื่องการปฏิรูปกว่า 10 ฉบับ ซึ่งหมายความว่า ยกระดับขึ้นมาจากกฎหมายปกติ เทียบเท่ากับรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมีความรับผิดชอบสูง และต้องมีหน้าที่รายงานความคืบหน้าเรื่องปฏิรูปทุก 3 เดือนต่อที่ประชุมรัฐสภา ดังนั้น จึงควรมีระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปีที่ให้ ส.ว.ได้มีส่วนร่วมพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น
พร้อมยืนยันว่า สนช.ได้ตั้งคำถามไว้อย่างชัดเจนแล้ว โดยการที่เขียนว่า “ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” นั้น ไม่ใช่เป็นการเขียนคำใหม่ขึ้นมา เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา อย่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาตรา 172 บัญญัติว่า “ให้สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” ซึ่งสังเกตได้ว่า เป็นการเขียนในรูปแบบเดียวกัน ใช้คำว่า “เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ”เหมือนกัน แต่ต่างกันที่สภาผู้แทนราษฎร กับที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา อย่างไรก็ตาม การเขียนคำว่า “ให้สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ” ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆนั้น หมายถึงกระบวนการที่ให้ ส.ส.เสนอชื่อบุคคล และลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ดังนั้น การเขียนว่า “ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ” ก็คือ กระบวนการที่เหมือนกันกับของ ส.ส.
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ชี้แจงคำถามพ่วงประชามติของสนช. ได้ชี้แจงกับประชาชนหรือไม่ว่า คำว่า “พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” นั้น ได้หมายถึงกระบวนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีด้วย นายสมชาย กล่าวว่า สนช.ได้มีคำอธิบายที่แจกจ่ายให้กับประชาชนควบคู่ไปกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุอย่างชัดเจนไว้แล้วว่า “ให้ที่ประชุมรัฐสภา ร่วมกันพิจารณาบุคคลผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” ทั้งนี้ การเขียนคำอธิบายดังกล่าว สนช.จำเป็นต้องเคารพ กรธ. และเคารพกฎหมายประชามติ ไม่สามารถอธิบายขั้นตอนกระบวนการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีได้เพราะจะเป็นการชี้นำ ดังนั้น จึงต้องรอให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านก่อน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ความเข้าใจทางกฎหมายของแต่ละคน อาจแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง กระบวนการต่างๆสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ กรธ.จะปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญ.-
