กทม. 9 พ.ค.- ตำรวจคุมชาวเมียนมา ผู้ต้องหาคนสุดท้าย ร่วมปล้นร้านรับซื้ออัญมณี ย่านเพชรเกษม
พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม นำตัวนายต้นรักหรือต้น แรงงานชาวเมียนมา ผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่ถูกจับได้เมื่อค่ำวานนี้(8 พ.ค.)ที่จังหวัดกาญจนบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีร่วมกับพวกอีก 2 คนที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ปล้นร้านรับซื้ออัญมณี บริเวณปากซอยเพชรเกษม 63
เริ่มจากนำตัวเข้ามาภายในร้านชี้จุดก่อเหตุ โดยนายต้นมีหน้าที่เป็นคนคุมเชิงเจ้าของร้านและกวาดทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้ที่ 2 และ 3 ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ได้ไปเป็นสร้อย แหวนทองคำ และเครื่องเพชร ก่อนออกจากร้านและทำหน้าที่ขับรถให้นายนพอนันต์ ภูษิตรุ่งโรจน์ หัวหน้าแก๊ง ไปรวมตัวกันเพื่อนับทรัพย์สินที่บ้านพักย่านกระทุ่มแบน แต่นายวุฒิชัย ล้านเหรียญทอง มาถึงบ้านช้าสุด ซึ่งหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ 1 ซึ่งเป็นร้านจำนำเพชรและทอง นายต้นก็ยกมือไหว้และขอโทษเจ้าของร้าน
นายต้น เล่าว่าค่าจ้างเป็นแหวนทองคำ 5 วง โดยให้เพื่อนชาวไทยนำไปจำนำได้เงินมา 10,000 บาท ก่อนหนีไปจังหวัดกาญจนบุรี หวังหลบซ่อนตัวตามป่าชายแดนจนกว่าคดีเงียบ แต่ถูกจับได้เสียก่อน โดยสงสัยว่า นายวุฒิชัย เพื่อนร่วมปล้นน่าอมทรัพย์สิน เนื่องจากกลับจุดนัดหมาย ช้าที่สุดและเมื่อนับทรัพย์สินก็เหลือเพียง 50 กว่ารายการเท่านั้น
ตรวจสอบประวัตินายต้น พบว่าเข้ามาทำงานประเทศไทยหลายปีจนสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน ก่อนก่อเหตุทำอาชีพรับจ้างช่วยงานที่เขียงหมู ทั้ง 3 คนรู้จักกันที่วงเหล้าย่านพุทธมณฑลสาย 4 เพียงไม่กี่วัน ก็ชักชวนกันก่อเหตุ
พันตำรวจเอกวุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผู้กำกับการ สน. เพชรเกษม เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง อยู่ระหว่างเรียกคนไทยที่นำแหวนของนายต้นไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งมาสอบปากคเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วนทรัพย์สินตรวจสอบยอดที่ถูกปล้นไปทั้งหมด 141 รายการ ยึดคืนมาได้แล้ว 108 รายการ ส่วนแหวน 5 วง ตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำแล้วเจ้าของทรัพย์สินจะต้องเป็นผู้ไปไถ่ถอนคืนมา.-สำนักข่าวไทย
