บีซีพีจีกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเกือบ 30%

กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – บีซีพีจีประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 62 กำไรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกือบ 30% พร้อมเดินหน้าจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจ


นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 1/2562 บริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ เป็นผลจากสภาพอากาศที่ดี ความเข้มแสงและความเร็วลมเฉลี่ยอยู่ในระดับที่สามารถผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จำนวนเมกะวัตต์ได้ลดลงจากการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วก็ตาม คิดเป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าที่   808 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2561 และไตรมาส 4/2561 แต่หากคิดเป็นผลกำไร บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 110 ล้านบาท หรือสูงถึงร้อยละ 29 อีกทั้งยังรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 38 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2562 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 61 และกำไรต่อหุ้นที่ 0.25 บาท

สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจากการดำเนินงานปกติ (ก่อนหักค่าตัดจำหน่าย)  อยู่ที่ 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 203 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1/2561 (หลังการปรับปรุงงบการเงิน) มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ประเทศฟิลิปปินส์ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ เป็นผลจากความเร็วลมเฉลี่ยที่ดีต่อเนื่องในบริเวณที่ตั้งโครงการ เนื่องจากการพัดผ่านของพายุมรสุม และพายุดีเปรสชั่นเขตร้อนซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ประเทศอินโดนีเซีย ยังดำเนินงานอย่างมีเสถียรภาพต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจาก 181 ล้านบาท เป็น 188 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 31,669 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 ส่วนหนี้สินรวมอยู่ที่ 16,125  ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 1.8 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย โดย ณ สิ้นงวด อยู่ที่ 15,325  ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.6 จากสิ้นปีก่อนหน้า 


“ผลงานไตรมาสแรกถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ดี สำหรับไตรมาส 2 บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการลมลิกอร์จังหวัดนครศรีธรรมราชที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว และยังวางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายหน่วยงาน โดยเน้นความสำคัญของการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ทั้งในรูปแบบ wholesale และ retail ล่าสุดโครงการนำร่องซื้อขายไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ T77 ได้รับคัดเลือกจากสื่อระดับโลก คือ The Business Debate และ Reuters ให้เป็นหนึ่งในโครงการที่สนับสนุนเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ข้อของสหประชาชาติ โดยจัดทำวีดีโอเกี่ยวกับโครงการและสัมภาษณ์ผู้บริหาร 3 หน่วยงานพันธมิตร คือ บีซีพีจี แสนสิริ และพาวเวอร์ เลดเจอร์ไว้ในเว็บไซต์ของ Reuters ที่ https://www.reuters.com/17-goals” นายบัณฑิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง