กรุงเทพฯ 8 พ.ค.- “อุตตม” เผย นัดสัมมนา ส.ส.พรรคทั้งหมด สัปดาห์หน้า เตรียมพร้อมก่อนเข้าสภา ขอทุกพรรคเคารพมติ ศาล รธน.ปมสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มั่นใจ พปชร.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่เคาะตำแหน่ง รอคุยพรรคร่วม ชี้ ควรให้โอกาส ส.ว.ทำหน้าที่เลือกนายกฯ อย่าตีกันเข้าข้างฝ่ายไหน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติคำวินิจฉัย สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ต้องรอฟังคำวินิจฉัย เข้าใจว่าช่วงเช้าวันนี้คงทราบผล และติดตามการแถลงรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ทุกพรรคการเมืองควรเคารพกฎ กติกา ส่วนทิศทางของพรรคก็เดินหน้าต่อเต็มที่ เริ่มจากการประชุมสัมมนา ส.ส.ทั้งหมดของพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมการซักซ้อม เพราะเรามี ส.ส.ใหม่จำนวนมากที่ไม่เคยเข้าสภามาก่อน ขณะเดียวกันในส่วนของงานการเมือง พรรคก็จะเดินหน้า ประสานพรรคอื่นๆที่ร่วมอุดมการณ์และสนใจมาร่วมกันตั้งรัฐบาล
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และมีโอกาสทำงานกับพรรคที่มีแนวทางการทำงานแบบเดียวกัน แต่ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ส่วนตัวเลขที่มีการประเมินออกมาว่าฝั่ง พปชร.รวมเสียงได้ 256 เสียงนั้นเป็นการประเมินตามปกติ เราก็ประเมินของเรา หากวันนี้ กกต.รับรองผลเรียบร้อยก็จะมาพูดคุยกัน และตัวเลขจะชัดเจนขึ้น
ต่อข้อถามถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น เพราะยังไม่ถึงเวลาและมีอีกหลายขั้นตอนที่จะไปสู่การตั้งรัฐบาล ยังไม่รู้ มีใครอยู่บ้าง เพราะพรรคยังไม่ได้คุยเรื่องตำแหน่ง ตอนนี้เอาเรื่องของพรรคก่อน เพราะการจัดสรรตำแหน่ง ต้องหารือกับพรรคร่วมด้วยว่าบทบาทของพรรคต่าง ๆ จะเป็นยังไง ทำงานยังไง และยังบอกไม่ได้ว่าหน้าตาของพรรคร่วมรัฐบาลจะชัดเจนเมื่อไหร่
นายอุตตม กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ของพรรค ถูกร้องเรียนเรื่องการถือหุ้นสื่อและตนในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นผู้เซ็นต์รับรอง ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้สมัคร และว่าที่ ส.ส.เกือบทุกพรรค เราได้หารือแนวทาง โดยดูเป็นรายกรณี หากเกี่ยวกับพรรค เราพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น และเดินตามขั้นตอนไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ส่วนกรณีที่มีกระแสคัดค้านไม่ให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ครั้งแรก เราควรเคารพกติกาปัจจุบัน เดินตามนั้น บทบาท ส.ว.เป็นไง ให้เป็นตามนั้น และควรให้เกียรติ ให้ โอกาส ส.ว ได้ทำหน้าที่อย่าไปพูด หรือตีกันไว้ก่อนว่ามาแล้วจะเข้าข้าง หรือช่วยฝ่ายไหน เพราะบ้านเมืองต้องเดินหน้า เช่นเดียวกับ 15 รัฐมนตรีที่ลาออกมารับตำแหน่ง ส.ว.ก็ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่แบบนั้น ลองพิจารณาดูทุกคนที่ลาออก ก็มีคุณสมบัติพร้อม เพราะตนเคยร่วมงานกันมา ประเทศไทยต้องการคนมีความสามารถ คนเหล่านี้มีความพร้อมทำงาน อย่าไปเกี่ยงว่า เคยทำงานในรัฐบาลแต่วันนี้ไปอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติจะไม่เหมาะ เพราะทุกคนมีคุณสมบัติ ส่วนการปฏิบัติตัวก็อยู่ในสายตาประชาชน.-สำนักข่าวไทย