fbpx

ธปท.ดึงนอนแบงก์ 19 แห่งร่วมคลินิกแก้หนี้ระยะ 2 เริ่ม 15 พ.ค.นี้

ธปท. 7 พ.ค. – ธปท.ลงนามร่วมกับนอนแบงก์ 19 แห่ง เพื่อเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ระยะที่ 2 โดยลูกหนี้ของนอนแบงก์สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป





นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนของไทยสูงถึงร้อยละ 80 ของจีดีพีมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประชาชนที่มีอายุ 29-30 ปี เป็นหนี้เสียถึง 1 ใน 5 โครงการคลินิกแก้หนี้จะช่วยลูกหนี้ที่มีหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับเจ้าหนี้หลายราย


โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด หรือ SAM จะเป็นหน่วยงานกลางที่เจรจากับลูกหนี้แทนเจ้าหนี้ โครงการระยะที่ 2 ได้ขยายขอบเขตให้รวมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของนอนแบงก์ ซึ่งจะทำให้โครงการสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในวงกว้างและเบ็ดเสร็จมากขึ้น เนื่องจากลูกหนี้ของนอนแบงก์มีจำนวนกว่าร้อยละ 80 ของหนี้ทั้งหมด ในครั้งนี้มีผู้ประกอบการนอนแบงก์ 19 แห่งเข้าร่วมโครงการ เมื่อรวมกับธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งที่ร่วมโครงการอยู่แล้ว รวมเป็น 35 แห่ง จะทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้ครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเกือบร้อยละ 90 โดยลูกหนี้ของนอนแบงก์ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี มีหนี้เสียค้างเกินกว่า 3 เดือน กับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 และมียอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท  นอกจากนี้  ผู้เข้าร่วมโครงการต้องยังไม่ถูกดำเนินคดี หรือถูกดำเนินคดีแล้วแต่ยังไม่มีคำพิพากษา และมีเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมโครงการต้องไม่ก่อหนี้ใหม่ ในระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งให้เวลาระยะเวลาถึง 10 ปี

สำหรับโครงการคลีนิคแก้หนี้ในระยะที่ 1 มีลูกหนี้ที่สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำเร็จและลงนามสัญญาแล้ว 1,500 ราย มูลหนี้ 405 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มีเจ้าหนี้ 3 รายขึ้นไป เงินต้นเฉลี่ย 300,000 บาท โดยลูกหนี้ที่มีวงเงินหนี้ 100,000 บาท จะชำระหนี้เพียง 1,200 บาทต่อเดือน เนื่องจากโครงการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 7

เสนอสั่ง รพ.เอกชน ติดป้ายราคายาชัดเจน

ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์วันนี้  นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อมูลโครงสร้างต้นทุนราคายาพบว่า โรงพยาบาลเอกชนมีต้นทุนยาใกล้เคียงกัน แต่การคิดราคาแตกต่างกันมาก แม้จะเป็นยาชนิดเดียวกัน โดยมีกำไรตั้งแต่ไม่มากจนสูงถึงระดับ 3 เท่า 5 เท่า 8 เท่าและสูงสุด 900% ซึ่งรายการยาที่นำมาวิเคราะห์ได้ยึดตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิ์ทุกที่ มีรายการยาจำเป็น 3,892 รายการ จากบัญชีข้อมูลรายการยาและรหัสยามาตรฐานของไทยที่มีอยู่ 30,103 รายการ

มาตรการที่จะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการหรือ กกร. พิจารณาวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 จะเป็นมาตรการที่นำมาใช้ภายใต้กฎหมายที่หน่วยงานเกี่ยวข้องมีอยู่ ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข คือ ต้องเป็นธรรมทั้งกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มี พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ สามารถกำหนดให้มีการปิดป้ายแสดงราคา หากมีการจำหน่ายเกินราคา ก็จะมีโทษตามกฎหมาย

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า มาตรการที่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาและจะนำเสนอให้ กกร. คือ การกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนเผยแพร่ราคายา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์บนเว็บไซต์ของโรงพยาบาล และต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และให้โรงพยาบาลยอมให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อจากภายนอกได้ โดยในใบสั่งยาแพทย์ต้องเขียนชื่อยาให้ชัดเจน ทั้งชื่อทางการค้า ชื่อทางวิทยาศาสตร์ และยังเสนอให้ใช้มาตรการเพิ่มเติมในการดูแลผู้บริโภคด้านการรักษาพยาบาล โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดูแลให้ความเป็นธรรมบริการทางการแพทย์ ส่วนกลางมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน ในต่างจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีหน้าที่ดูแลและให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภคกรณีการเข้าไปรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแล้วถูกคิดค่าบริการจากการให้บริการเกินความจริง เช่น ปวดท้อง ปวดหัว แต่จับทำซีทีสแกน ทำให้ถูกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มและเกินจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามามากอีกด้วย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.