ปตท.จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ “เทิดไท้องค์ราชัน น้อมเกล้าศิระกราน”

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. รวมพลังหัวใจแห่งความจงรักภักดี แต่งกายเสื้อสีเหลือง แปรอักษรเลข ๑๐ เฉลิมพระเกียรติ ถวายราชสักการะ รวมทั้งผนึกพลังจิตอาสารักษ์โลก สานต่อพระราชปณิธานโครงการจิตอาสาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมดำเนินโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “เทิดไท้องค์ราชัน น้อมเกล้าศิระกราน” ตลอดปี 2562





นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กลุ่ม ปตท.ได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ “เทิดไท้องค์ราชัน น้อมเกล้าศิระกราน”  ขึ้นเพื่อมุ่งส่งเสริมการพัฒนาจิตอาสา และการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยครอบคลุมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet) รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคม (People) โดยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงปลูกกล้าประดู่ป่า ต้นกล้าต้นที่ 100 ล้าน ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ 1 ล้านไร่ ของ ปตท. ณ แปลงปลูกป่า ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2540 จนปัจจุบันต้นประดู่ป่าทรงปลูกกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจและแรงบันดาลใจในการต่อยอดดำเนินงานสืบสานพระราชปณิธาน สานพลังคนไทยให้รักษาและอนุรักษ์ผืนป่าของแผ่นดินไทยให้ยั่งยืน


ทั้งนี้ นำมาสู่การพัฒนา 2 โครงการหลักเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ได้แก่ โครงการใต้ร่มพระบารมีต้นที่ 100 ล้าน สามารถพลิกฟื้นป่าจากสภาพเขาหัวโล้น กลายเป็นผืนป่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ ปตท. เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์  มีระบบนิเวเศและความหลากหลายทางชีวภาพ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในการเสด็จมาในครั้งนั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ชุมชนตระหนักและหวงแหนธรรมชาติ  โดย ปตท.จะดำเนินการจัดกิจกรรม “รวมใจ จิตอาสา ฟื้นฟูพิทักษ์ป่า ถวายองค์ราชัน” ร่วมกับชุมชนและประชาชนฟื้นฟูป่า ซ่อมแซมแนวกันไฟ ทำโป่งพัฒนาแหล่งน้ำให้สัตว์ป่า ปลูกพืชอาหาร เพื่อสร้างความตระหนักด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงจัดทำเส้นทางจักรยานระยะทาง 7 กิโลเมตรเชื่อมไปสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ปลูกป่าประวัติศาสตร์ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ชื่นชมพระบารมีต้นประดู่ป่าทรงปลูก และเรียนรู้เส้นทางธรรมชาติจากป่า 1 ล้านไร่

โครงการศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Preventive Healthcare Unit) ในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น โดยร่วมกับมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนองพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 10 ดูแลประชาชนในพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับความรู้และการรักษาพยาบาลโดยทั่วถึง  ด้วยการนำเทคโนโลยีมาส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน อาทิ การตรวจเช็คร่างกายเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย แล้วส่งผลการตรวจวิเคราะห์เข้าระบบประมวลผลและเชื่อมโยงข้อมูลจัดเก็บในระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  การนัดหมายแพทย์และการรับยาจากระบบแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการรวดเร็วขึ้น ลดความแออัดของคนไข้ในโรงพยาบาลชุมชน โดยปีนี้จะนำร่องเพื่อเป็นต้นแบบแห่งแรก ณ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น สาขา ต.สระขวัญ จ.สระแก้ว และแห่งที่ 2 สาขา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

นอกจากนี้ ยังรวมพลังหัวใจแห่งความจงรักภักดีผ่านโครงการและกิจกรรม อาทิ โครงการความร่วมมือเพิ่มพื้นที่สีเขียวกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ประชาชน ชุมชน และพนักงานจิตอาสาปลูกต้นไม้ชั้นรองสวนจตุจักร และฟื้นฟูต้นไม้แนวถนนพหลโยธิน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ลดมลภาวะ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี

กิจกรรมเพิ่มพื้นที่สีเขียวคุ้งบางกะเจ้า ร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่าย คณะทำงานสีเขียว Our Khung Bangkachao ชุมชน และพนักงานจิตอาสาในการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว 400 ไร่ โครงการพลังธรรมชาติ พลังงานสะอาดเพื่อชุมชน ต่อยอดองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมของ ปตท. เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาด้านพลังงานให้กับชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยพัฒนา “เครื่องตะบันน้ำ” อุปกรณ์ส่งน้ำขึ้นที่สูงและระยะทางไกลโดยไม่ใช้ไฟฟ้าหรือน้ำมัน แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำแก่ชุมชน โดยปีนี้  มีแผนดำเนินโครงการใน 10 พื้นที่ โครงการศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 34 ภายใต้หัว “ของขวัญแด่พระราชา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์รวมถึง กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ของบริษัทในกลุ่ม ปตท. อาทิ การจัดโดรนแปรอักษรถวายราชสดุดีจักรีวงศ์ ซึ่งจะจัดแสดงทั้งส่วนกลางและภูมิภาค โดยจัดแสดงครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา

โครงการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เฉลิมพระเกียรติให้กับโรงพยาบาลเกาะสีชัง อ.สีชัง จ.ชลบุรี โครงการป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โดยร่วมมือกับกรมป่าไม้และองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก บ้านเขาใหญ่ อ.บ่อทอง จังหวัดชลบุรี กิจกรรมวิ่งเพื่อโลกเฉลิมพระเกียรติ พร้อมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ บ้านเขาใหญ่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี กิจกรรมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติโดย 10 ชุมชนรอบโรงกลั่น โครงการคืนความอุดมสมบูรณ์สู่เขาห้วยมะหาด เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของผืนป่าที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า โดยปลูกพื้นที่ป่า 200 ไร่ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม 40 ไร่ และจัดทำแนวกั้นไฟ กิจกรรมรวมพลังน้ำใจในการเป็นจิตอาสาพัฒนาทำกิจกรรมเพื่อสังคม ได้แก่ การบริจาคโลหิต การเดินวิ่งปั่นจักรยาน และจิตอาสาในการทำความสะอาดชายหาด จ.ระยอง และการสนับสนุนกรวยยางจราจร น้ำดื่ม หมวก เตาแก๊ส และถังขยะ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธี

เนื่องในโอกาสมหามงคลยิ่งนี้ กลุ่ม ปตท.ขอน้อมนำแนวทางจิตอาสาเป็นพลังในการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกที่ดีในการคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม อันจะเป็นรากฐานการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ประเทศชาติต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]