fbpx

พสกนิกรชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ชื่นชมพระบารมีตลอดเส้นทางเสด็จฯ



ทันทีที่เปิดจุดคัดกรอง ประชาชนทุกคนต่อแถวยื่นบัตรประจำตัวประชาชนแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ ก่อนเดินเท้าเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในและถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 


ทุกพื้นที่ตั้งแต่หน้าพระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง เรื่อยไปตามถนนราชดำเนิน ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน เราได้เห็นภาพผู้สูงอายุ วัยรุ่น วัยกลางคน เฝ้ารอชื่นชมพระบารมีด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ชาวสระบุรี 2 คนนี้ นั่งรถบัสโดยสารมาตั้งแต่เช้า ตั้งใจว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะขอมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีสักครั้ง 


เช่นเดียวกับหญิงคนนี้ที่เดินทางจากบ้านย่านหัวหมาก ตั้งแต่เช้าตรู่ เฝ้าฯ รับเสด็จอยู่บริเวณถนนบำรุงเมือง ใกล้กับกระทรวงมหาดไทย เผยจะนำเรื่องราวที่ได้ชื่นชมพระบารมีครั้งนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ และลูกหลานฟังว่า โชคดีเพียงใดที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่อย่างร่มเย็น

ส่วนคุณป้าคนนี้มาพร้อมชาวบ้านชุมชนลาวครั่ง จาก อ.ทรายทองวัฒนา จ.กำแพงเพชร สวมใส่ชุดประจำถิ่นเป็นผ้าลาวครั่งลายขิดทอด้วยมือ เสื้อเหลืองซิ่นแดง มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ บริเวณหน้าศาลฎีกา เผยแม้อายุเยอะ ต้องเดินทางไกลเกือบ 500 กิโลเมตร แต่การได้ชื่นชมพระบารมี นับเป็นบุญสูงสุดในชีวิตของเธอและชาวบ้านทุกคน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พสกนิกรโบกธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ปลิวไสว ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าที่พร้อมใจเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ล้วนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553