ธปท.แนะเพิ่มวินัยการเงิน-ใช้จ่ายตามฐานะ

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – ธปท.แนะเพิ่มวินัยการเงินและใช้จ่ายตามฐานะ หลังหนี้ครัวเรือนไทย 9 ปีขยายตัวอย่างรวดเร็ว 


นางสาวโสมรัศมิ์ จันทรัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยด้านระบบ การเงิน สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการศึกษาพลวัตของหนี้ครัวเรือนไทย โดยใช้ข้อมูลสินเชื่อรายสัญญาของเครดิตบูโร และติดตามบัญชีและผู้กู้รายเดิมระยะเวลา 9 ปี ตั้งแต่ปี 2552 – 2561 พบว่า ภาพรวมหนี้ครัวเรือนไทยกลับมาขยายตัวระดับสูงอีกครั้งในปี 2561 และส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อรถยนต์ โดยมีจำนวนสัญญาและมูลหนี้ขยายตัวมากกว่า 7 % ในปี 2561 เทียบกับปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 78.6 % ซึ่งการขยายตัวของสินเชื่อส่วนใหญ่มาจากธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ non-bank และการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนไทยในรอบ 9 ปีนี้ส่วนใหญ่มาจากผู้กู้รายเดิม 

ขณะที่สัดส่วนผู้กู้รายใหม่มีสัดส่วนเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น โดยผู้กู้รายใหม่จะมีอายุน้อยกว่า 25 ปีขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยมีหนี้เร็วขึ้นและนานขึ้น และสัดส่วนของผู้กู้ใหม่แต่ละปีกลับมีการกระจายเชิงพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของสินเชื่อทั่วถึงขึ้น ไม่กระจุกตัวอยู่ในชุมชนเมืองเหมือนเช่นเดิม


ด้านเสถียรภาพทางการเงินของครัวเรือนและระบบการเงินไทย พบว่า 1  ใน 3 ของผู้กู้เดิม มักมีพฤติกรรมการกู้หลายบัญชีและหลายสถาบันการเงิน และพฤติกรรมดังกล่าวมีแนวโน้มสูงขึ้นในรอบ 9 ปี ลักษณะของผู้กู้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อบ้านและรถยนต์ ผู้กู้ใหม่แต่ละปีจะมีแนวโน้มเด็กลงและคุณภาพสินเชื่อโดยรวมด้อยลง โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ปี 2561

นายสรา ชื่นโชคสันต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลงานวิจัยเรื่องหนี้ครัวเรือนไทย : ข้อเท็จจริงที่ได้จาก BOT-NIELSEN HOUSEHOLD FINANCIAL SURVEY ซึ่งผลการศึกษาพบว่า ค่าเฉลี่ยของมูลหนี้ต่อครัวเรือนปี  2560 อยู่ที่ 525,053 บาท ขณะที่รายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนทั้งหมดที่มีหนี้และไม่มีหนี้อยู่ที่ 55,837 บาท และหลังจากคุมหลายปัจจัยให้คงที่แล้ว กลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้ยังคงมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีหนี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่า 7.6 % โดยค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าโทรศัพท์สูงกว่า 135% ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงกว่า 275% ขณะที่ค่าใช้จ่ายไม่ประจำ เช่น ค่าซ่อมรถสูงกว่า 631% อาจสะท้อนการให้ความสำคัญกับความมีหน้ามีตาทางสังคมมากกว่า 

ขณะที่การศึกษาครัวเรือนที่มีหนี้ครัวเรือนที่มีปัญหาทางการเงินกับครัวเรือนที่มีหนี้แต่ไม่มีปัญหา พบว่าหลังจากคุมหลายปัจจัยให้คงที่แล้ว กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหาทางการเงินมีค่าใช้จ่ายฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มครัวเรือนที่ไม่มีปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการใช้จ่ายสูงกว่า 17.5% โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงสูงกว่า 376% ค่าซื้อเสื้อผ้าสูงกว่า 562% สะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือ “ไลฟ์สไตล์” ที่ไม่ระมัดระวังการใช้จ่าย สะท้อนว่ากลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหามีแนวโน้มที่จะมีรสนิยม หรือความต้องการที่จะมีหน้ามีตาทางสังคมสูงกว่า และอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ครัวเรือนมีปัญหาทางการเงิน คือ การมีสมาชิกในครัวเรือนที่ประสบปัญหาล้มป่วย ส่งผลให้กลุ่มครัวเรือนที่มีปัญหามีค่ารักษาพยาบาลสูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีปัญหา โดยสูงกว่า 322%


ทั้งนี้ เสนอแนะการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพ ควรเริ่มที่ระดับครัวเรือนก่อน ด้วยการเข้าใจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครัวเรือน พร้อมตั้งเป้าหมายลดค่าใช้จ่าย โดยแบ่งเป้าหมายเป็นแบบขั้นบันไดจากง่ายไปยาก ออมเงินให้เป็นกิจวัตร  นอกจากนี้ ต้องพยายามไม่ให้สัดส่วนภาระหนี้จ่ายต่อเดือนเทียบกับรายได้ต่อเดือน (debt service ratio) สูงกว่า และที่สำคัญอย่าหลงกลกับดักทางการตลาดของผู้ขาย อย่างไรก็ตาม  หากทุกครัวเรือนมีพื้นฐานทางการเงินดีจะช่วยเสริมสร้าง ความเข้มแข็งให้แก่เสถียรภาพระบบการเงินไทย และนำพาให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างมั่นคงในท่ีสุด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]

ล่า 18 วัน รวบแล้วมือยิง “กำนันเล้น”

ตรัง 21 ส.ค.- เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มกำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตคารถ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานนานถึง 18 วัน พร้อมเตรียมสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ ติดตามจากรายงาน -สำนักข่าวไทย

เสริมเขี้ยวเล็บ! ทัพเรือรับมอบปืนใหญ่ ระยะยิง 40 กม.

ชลบุรี 21 ส.ค.- กองทัพเรือเสริมเขี้ยวเล็บ! รับมอบปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ระยะยิง 40 กม. เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ วันนี้ 21 ส.ค.68 ที่หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ) รับมอบปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตราจรล้อยาง จากศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์อุตสหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จำนวน 6 กระบอก โดยมี พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือและประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาปืนใหญ่ฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนข้าราชการ กำลังพล เข้าร่วมในพิธี  การดำเนินโครงการจัดหาปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ล้อยาง (ATMG) นับเป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างกำลังรบหลักของ ทร. เพื่อให้ […]

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]