สมุทรปราการ 29 เม.ย.- หนุ่มช่างไฟจ้างรถพยาบาลเคลื่อนย้ายพ่อที่ป่วยมะเร็งสมองกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ แต่พ่อสิ้นใจขณะเดินทาง มารู้ทีหลังพยาบาลที่นั่งไปด้วยบนรถเป็นพยาบาลปลอม ระหว่างทางไม่สนใจดูแลผู้ป่วย แถมเสียเงินจ้างพร้อมรถตู้สูงถึง 13,000 บาท ตัดสินใจเข้าแจ้งความ หวังให้เป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายทินกร งามสมบัติ อายุ 40 ปี หนุ่มช่างไฟฟ้า ที่ต้องสูญเสียคุณพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างจ้างรถพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพเคลื่อนย้ายคุณพ่อจากโรงพยาบาลศิริราช กลับไปยังจังหวัดชัยภูมิ แต่มาทราบภายหลังว่าพยาบาลบนรถวันนั้นเป็นพยาบาลปลอม จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ
นายทินกร เปิดเผยว่า ตนพาคุณพ่อเดินทางจากจังหวัดชัยภูมิ มารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่าน โดยหมอวินิจฉัยว่า คุณพ่อป่วยเป็นเนื้องอกในสอง จึงหารือกันว่าจะพาพ่อกลับไปบ้านขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลติดต่อรถพยาบาลสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้ และได้รถตู้มาพร้อมกับพยาบาลวิชาชีพคนดังกล่าว โดยไม่ทราบและไม่คิดว่าพยาบาลที่มากับรถพยาบาลจะเป็นพยาบาลปลอม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 เมษายน แฟนสาวนั่งรถพยาบาลไปพร้อมกับคุณพ่อ ส่วนตนเองขับรถยนต์ส่วนตัวตามไปด้วย ระหว่างทางพยาบาลปลอมคนนี้กลับไม่มีลักษณะของพยาบาลเลย ไม่สนใจผู้ป่วย เครื่องวัดชีพจรแบตเตอรี่หมดยังไม่ทราบ ต้องบอก จึงแวะจอดหาซื้อแบตเตอรี่มาใส่ และตลอดทางพยาบาลปลอมคนนี้ก็ไม่มีการรายงานอาการของคุณพ่อให้ทราบ มีเพียงแฟนสาวที่เป็นคนรายงานอาการของคุณพ่อให้ตนทราบตลอดทาง กระทั่งถึงบ้านที่จังหวัดชัยภูมิ จึงทราบว่าคุณพ่อสิ้นใจแล้ว
โดยส่วนตัวตนไม่ได้ติดใจการตายของคุณพ่อ เพราะขณะนั้นคุณพ่อก็เป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤติ แต่เสียความรู้สึกที่มาทราบภายหลังจากเพจในเฟซบุ๊ก ว่า พยาบาลที่ตนเสียเงินจ้างมาพร้อมรถตู้เป็นเงินสูงถึง 13,000 บาท นั้นเป็นพยาบาลปลอม ซึ่งราคาค่าจ้างนั้นเป็นค่าจ้างของพยาบาลวิชาชีพตัวจริง และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้คนอื่นมาเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับตน จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับทางตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
ขณะที่ น.ส.จริยาภรณ์ วันนา อายุ 36 ปี แฟนสาวของนายทินกร และเป็นผู้ช่วยพยาบาล ผู้ที่นั่งรถไปกับพยาบาลปลอม เปิดเผยว่า ตลอดการเดินทาง พยาบาลปลอมไม่มีการดูแลผู้ป่วยเลย มีแต่ตนเท่านั้นที่ต้องคอยดูแล แม้แต่ชีพจรของคุณพ่อมีการตอบสนองน้อยลง แต่พยาบาลปลอมคนนี้กลับนั่งหลับ ซ้ำยังบอกให้ตนหลับอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับตำรวจแล้ว ตำรวจแนะนำให้นายทินกร ติดต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อสอบถามว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่เรียกรถตู้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยให้นั้น โรงพยาบาลทราบเรื่องหรือไม่ รถตู้ที่มาวิ่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เข้ามารับจ้างนั้นอยู่ในระบบของโรงพยาบาลอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นหลักฐานในการตรวจสอบและเรียกร้องความเสียหาย และดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย