fbpx

BRI ชื่นชมความสำเร็จตลอด 5 ปีที่ร่วมมือกัน

กรุงปักกิ่ง 27 เม.ย. – นายกฯเผยเวที BRI พอใจ 5 ปีผลร่วมมือการค้าลงทุนสูงขึ้น โครงการรถไฟไทย-จีนคืบ ขยายเส้นทางเดินรถไฟเชื่อมต่อโลก


“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง  (Belt and Road Forum for International Cooperation – BRF)  ครั้งที่ 2 ที่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเข้าร่วมประชุมว่า เป็นข้อริเริ่มของจีนตั้งแต่ปี 2556 มีประเทศสมาชิก 122  ประเทศ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ประมาณ 936 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 9.1 ส่วนการลงทุนร่วมกันกว่า 28 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การร่วมประชุมครั้งนี้ในฐานะผู้นำรัฐบาลไทยและประธานอาเซียน  มีโอกาสกล่าวในการประชุมระดับสูงและการประชุมโต๊ะกลม เน้นย้ำ การส่งเสริมความเชื่อมโยงทุกมิติทั้งในอนุภูมิภาคและในภูมิภาค บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ เปิดกว้าง โปร่งใส เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงขยายความร่วมมือตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และในเขต EEC เชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ และผลักดันความเชื่อมโยงจีนกับอาเซียนแบบไร้รอยต่อในเขตกวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊าและพื้นที่สามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียง


“ในโอกาสนี้ที่ประชุมออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังแลกเปลี่ยนความเห็นของทุกประเทศที่อยู่ในเส้นทางสายไหม ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยเห็นพ้องกันใน 5 มิติ คือ สร้างความร่วมมือระกับนโยบายด้านการค้า การลงทุน ภาษี ดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก เรือ อากาศ โดยต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม  ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้พลังงานสะอาด และต้องสอดคล้องกับการพัฒนาของสหประชาชาติด้วย การสร้างความเข้มแข็งและสร้างความร่วมมือในการปฏิบัติอย่างจริงจัง มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม  โดยพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ การแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การศึกษาและเยาวชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างการประชุม BRI ได้พบพูดคุยกับผู้นำหลายประเทศ  และได้พบหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายหลี่ เค่อเฉียงและนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่อง BRI โดยตรง โดยเน้นความร่วมมือด้านดิจิทัล นวัตกรรม ความร่วมมือโครงการรถไฟระหว่างจีนและญี่ปุ่น ผลักดันความสัมพันธ์ไทย-จีนด้านยุทธศาสตร์ให้เป็นรูปธรรม และให้เชื่อมโยงกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ BRI ยืนยันบทบาทของไทยในฐานะประธานอาเซียน ที่เน้นย้ำความร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลและยั่งยืน

“ผู้นำทุกประเทศมีความพอใจและเห็นพ้องกันว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างกันดีที่สุด  เพราะมีความร่วมมือหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ละประเทศฝากให้ประเทศสมาชิกดูแลนักธุรกิจที่เข้าไปลงทุน ผมขอบคุณจีนที่ส่งนักท่องเที่ยวมาไทยกว่า 10 ล้านคนแล้ว ซึ่งท่านประธานาธิบดีก็พร้อมจะสนับสนุนให้คนจีนมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งผมยืนยันว่าจะดูแลนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจีนอย่างดีที่สุด พร้อมตั้งเป้าหมายการค้าการลงทุนร่วมกันให้ได้จำนวน 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2564” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการรถไฟสายประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ-หนองคายที่ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้วและจะเริ่มก่อสร้างเมื่อการดำเนินการ ทุกอย่างพร้อม ซึ่งโครงการดังกล่าวไทยเป็นผู้ลงทุนเอง ใช้วัตถุและแรงงานไทย แต่จะใช้เทคโนโลยีของจีน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนที่ลงทุนในลักษณะนี้ และโดยผ่านจากหนองคาย เข้าไปกรุงเวียงจันทน์ของลาว ต่อไปในเมืองยูนนานทางใต้ของจีน เป็นรถไฟระหว่างประเทศสายแรก โดยจะลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างไทย-ลาววันนี้(27 เม.ย.)

“เป็นความสำเร็จแรกที่สำคัญในความเขื่อมโยงตามโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทางของจีน ซึ่งจะทำให้ทุกภูมิภาคมีความเชื่อมโยงกันทั้งอาเซียน เอเชีย ยุโรปและแอฟริกา โลกเปลี่ยนแปลงแล้ว เราต้องปรับตัว ต้องทำให้ดีที่สุด ให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม ลดความหวาดระแวง ผลประโยชน์ที่เป็นธรรม เพราะเราอยู่คนเดียวไม่ได้ เพราะขณะนี้โลกแคบลงด้วยความเชื่อมโยงในทุกมิติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวม” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME