สธ.25 เม.ย.-สธ.จัดเตรียมทีมแพทย์ 271 ทีมดูแลพระราชพิธีบรมราชา ภิเษก ตั้งแต่วันซ้อมใหญ่ 28 เม.ย.จนถึง 5 พ.ค.พร้อมออกคู่มือแนะประชาชน ทั้งเรื่องน้ำดื่ม -อาหาร อุปกรณ์กันแดด ห่วงอากาศร้อน
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประชุมคณะทำงานปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ว่า สธ.ได้ตั้งคณะทำงานปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขในงานพระราชพิธีบรมราชา ภิเษก เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจะเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯส่วนกลางเพื่อประสานสนับสนุนการดำเนิน งาน ตั้งแต่วันที่ 2-6 พ.ค. 2562
โดยแบ่งพื้นที่ รับผิดชอบออกเป็น1.พื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมการแพทย์ได้สนธิกำลังกับ 4 เหล่าทัพ กทม. โรงเรียนแพทย์เพื่อวางแผนให้การดูแลประชาชนในช่วงพระราชพิธี ทั้งรูปแบบของทีมหน่วยแพทย์ประจำจุด ทีมคัดกรองสุขภาพจิต ทีมเคลื่อนที่ และทีมรถพยาบาลลำเลียงกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้าสู่โรงพยาบาลเครือข่ายทุกแห่งใน กทม.
และ 2.ส่วนของภูมิภาค ซึ่งวันที่ 4-5 พ.ค. แต่ละจังหวัดอาจจะมีกิจกรรมของจังหวัดเอง ก็จะจัดสรรกำลังเข้ามาดูแล
นพ.ประพนธ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ได้ออกคู่มือการดูแลตนเองสำหรับประชาชนที่ต้องการมาร่วมพระราชพิธี โดยห่วงเรื่องของภาวะการขาดน้ำ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด โดยข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันและเวลาดังกล่าว อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 27-39 องศาเซลเซียส ดังนั้นประชาชนที่มาร่วมงานควรเตรียมร่างกายให้พร้อมนอก จากการพักผ่อนให้เพียงพอ ต้องดื่มน้ำ ไม่ต่ำกว่า 2 ลิตรระวังเรื่องอาหาร สวมเสื้อผ้าถ่ายเทอากาศได้ดี เตรียมอุปกรณ์กันกันแดดให้ดี เช่น หมวก ร่ม พัด ผ้าเย็น เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก แต่หากรู้สึกไม่สบายก็สามารถขอความช่วยเหลือคำปรึกษาได้เลยกับทีมแพทย์ที่จัดไว้
นพ.ประพนธ์ กล่าวด้วยว่า ทีมแพทย์ที่จะจัดเตรียมเริ่มปฏิบัติหน้าที่ประจำจุด ในพื้นที่กทม. ที่แบ่งไว้ทั้งหมด 6 โซน เริ่มตั้งแต่วันซ้อมใหญ่ 28 เม.ย. จนถึงวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งคาดว่า จะมีประชาชนมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคจำนวนมาก ได้จัดเตรียมทีมแพทย์ไว้ 271 ทีม ประกอบด้วย ทีมกู้ชีพระดับสูง 37 ทีม ทีมกู้ชีพระดับ พื้นฐาน 44 ทีม ทีมเดินเท้า 185 ทีม และทีมปฐมพยาบาล 48 ทีม รวมทั้งมีจิตอาสาพระราชทานด้านการแพทย์และสาธารณสุขลงทะเบียน 883 คน และเตรียมทีมเสริมจากพื้นที่ปริมณฑลอีก 15 ทีม .-สำนักข่าวไทย