ประจวบคีรีขันธ์ 18 เม.ย.-ศาลไม่ให้ประกันตัว 9 ผู้ต้องหา ก่อเหตุตีกันหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.บางสะพานน้อย ขณะที่พ่อของผู้ต้องหา ขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.สภ.บางสะพานน้อย พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 9 คน ที่ยกพวกตีกันหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.บางสะพานน้อย เหตุเกิดกลางดึกของคืนวันที่ 15 เม.ย. 2562 นำตัวไปยังศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้รถตู้จำนวน 3 คัน คันแรกเป็นรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คันที่ 2 และคันที่ 3 เป็นรถตู้ที่รับผู้ต้องหาทั้งสองกลุ่ม แยกกันมาคนละคันเพราะป้องกันการโต้เถียงหรือทะเลาะวิวาทกันบนรถ ซึ่งขบวนรถได้เข้ามาจอดบริเวณศาล
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเข้าไปในศาลเพื่อฝากขังต่อศาลเนื่องจากยังต้องทำการสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย กลุ่มท่าม่วง จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายพิษณุ ทองรักษ์ อายุ 28 ปี นายฤทธิพล ทองรักษ์ อายุ 34 ปี นายจิรศักดิ์ ล่องรอย อายุ 35 ปี นายอนุวัฒน์ พูลทอง อายุ 33 ปี นายอาชาไนย บัวคำ อายุ 29 ปี และนายอรรถพล ป้องเศร้า อายุ 27 ปี
ส่วนฝ่ายกลุ่มเกาะยายฉิม ประกอบด้วย นายสันติชัย มากยอด อายุ 32 ปี นายชวลิต โว้ดทวี อายุ 32 ปี นายชลิต โว้ดทวี อายุ 30 ปี โดย นายสันติชัย มากยอด ที่ใช้พระพุทธรูปที่ตั้งบูชาทุ่มขว้างใส่คู่กรณี มีข้อหาเพิ่มเติมทำให้เสียหาย ทำลายทำให้เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น (พระพุทธรูป)
ต่อมาศาลได้พิจารณาสำนวนและคำร้องฝากขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และต้องการที่จะสอบสวนต่อเพราะสำนวนยังไม่ครบถ้วน ศาลได้มีคำสั่งตามที่ร้องขอในการฝากขัง แต่ไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เนื่องจากเกรงว่าอาจจะสร้างความไม่สงบได้ หลังจากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวส่งเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทางญาติของผู้ต้องหาทั้งหมด เตรียมยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวในวันพรุ่งนี้
ด้าน นายประชา โว้ดทวี อายุ 53 ปี พ่อของนายชวลิต และนายชลิต โว้ดทวี กลุ่มเกาะยายฉิม 3 คน ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว วันนี้ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อเตรียม การยื่นขอประกันตัวกับลูกชาย ในครั้งนี้ และสำหรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอยากจะขอ ความเป็นธรรม ให้กับลูกชายของตน ที่เสนอข่าว ออกมาถือว่ายังบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ที่ยังไม่ออกมาพูดอะไร ก็เพราะว่า ยังมีข้อมูลที่ยังไม่ได้เปิดเผย เพื่อเตรียมไว้ในชั้นศาล ซึ่งในการเสนอข่าวไป ด้วยความเป็นธรรม ถ้าฝั่งลูกเขาผิดจริงก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ได้เลย ซึ่งในวันเกิดเหตุ ผมและภรรยาได้เข้าไปห้ามผู้ชาย ที่ปรากฏอยู่ในภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งเราเข้าไปห้าม ทั้งสองกลุ่มให้แยกกัน โดยในวันนั้น ได้ทราบข่าวว่าลูกชายถูกทำร้ายแล้วมารักษาที่ รพ. ตนจึงได้เดินทางมารอที่โรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้น กลุ่มพ่อการะเกด ได้มาถึงโรงพยาบาลทีหลังทำให้ตนเหตุการณ์ทุกอย่าง ก่อนที่จะมีเหตุต่อยกันขึ้น.-สำนักข่าวไทย