กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – ศาลไม่ให้ประกัน “ตะวัน-แฟรงค์” เหตุอัตราโทษสูง และพฤติการณ์มีไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง สุดชุลมุนกว่าจะนำตัวขึ้นรถมาศาล
วันนี้ ตำรวจหญิงช่วยกันหามตัว นางสาวทานตะวัน หรือ “ตะวัน” ขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปส่งฝากขังที่ศาลอาญา หลังจากถูกดำเนินคดีในความผิดฐานขัดขวาง ก่อกวนขบวนเสด็จ ตามมาตรา 116 แต่ที่ต้องหาม ไม่ใช่ว่าเจ็บป่วย หรือเป็นลมที่ถูกฝากขัง แต่เป็นเพราะตะวันขัดขืน ไม่ยอมที่จะขึ้นรถ ตำรวจจึงต้องหามลงมาจากสถานีตำรวจนครบาลฉลองกรุง และเมื่อรถแล่นผ่านกลุ่มคนที่ไปให้กำลังใจ ตะวันก็ยังยกมือทักทาย ด้วยใบหน้าปกติ ยังยิ้มเบาๆ ส่งให้กลุ่มคนดังกล่าว และพูดว่ากำลังจะไปศาล และ สน.ดินแดง จากการสอบถามตำรวจผู้คุมตัวตะวัน และแฟรงค์ ผู้ต้องหาความผิดมาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีพยายามขับรถแซงขบวนเสด็จ ยังคงกินข้าว และพักผ่อนได้ตามปกติ
ขณะที่บรรยากาศช่วงเช้า ที่ศาลอาญา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายืนคัดค้านการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย “ตะวัน ม็อบกลุ่มทะลุวัง” และ “แฟรงค์” รวมทั้ง นายนภสินธุ์ หรือสายน้ำ ผู้ต้องหาคดีสนับสนุนพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว หรือพระบรมมหาราชวัง
โดยทนายกฤษฎางค์ บอกว่า ไม่ควรจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปฝากขัง เพราะทำให้เสียสิทธิ์ ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การไต่สวนฝากขังนัดแรก ศาลต้องไต่สวนฝั่งผู้ฝากขังว่ามีเหตุผลอะไร แต่เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ไม่มีการไต่สวนฝากขังคดีของสายน้ำ อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและข้อหาที่ถูกดำเนินคดีนั้นเป็นข้อหาที่หนักเกินไปกว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหา
ที่สุด ศาลอาญา มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง นางสาวทานตะวัน นายณัฐนนท์ และนายนภสินธ์ เป็นเวลา 12 วัน ก่อนที่ทนายความจะยื่นประกันผู้ต้องหาแต่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน และนายณัฐนนท์ ชั้นฝากขัง โดยเห็นว่าข้อหาที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูง และพฤติการณ์มีลักษณะไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว นายนภสินธุ์ ตีราคาประกัน 35,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะนี้หรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง.-สำนักข่าวไทย