กรุงเทพฯ 25 ส.ค.-พาไปตรวจสอบการชกมวยข้างถนน ของกลุ่ม “Fight Club Thailand” โดยชกที่ลานกว้าง ยกเดียว 3 นาที และไม่มีการตัดสิน ซึ่งแพทย์ด้านประสาทและสมองเห็นว่า อุปกรณ์ป้องกันยังไม่เพียงพอ หากโดนจุดสำคัญอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต ติดตามจากรายงาน
เมื่อกรรมการให้สัญญาณ คู่ชกต่างแลกหมัดใส่กันทันที นี่เป็นคลิปกิจกรรมของกลุ่มไฟต์คลับ ไทยแลนด์ เรียกกันว่า “มวยข้างถนน” เวทีมวยถูกจัดเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ เช่น ลานกีฬา หรือใต้ทางด่วน เริ่มชกช่วงกลางคืน มีผู้ชมล้อมวงเชียร์อย่างคึกคัก กิจกรรมนี้เริ่มเมื่อต้นเดือนที่แล้ว การชกจะมี 1 ยก ใช้เวลา 3 นาที ไม่มีการนับคะแนน แพ้หรือชนะ กำหนดกติกามารยาทไว้ว่า ห้ามท้าทาย ห้ามจับคู่กันเอง และห้ามนักมวยที่ผ่านเวทีลงสมัคร ส่วนข้อห้ามการชก เน้นห้ามโจมตีลูกกระเดือก ท้ายทอย แนวสันหลัง อวัยวะเพศ ห้ามจับคู่ต่อสู้ทุ่ม และห้ามซ้ำเมื่อเวลาอีกฝ่ายล้ม
ในช่วง 1 เดือนกิจกรรมนี้ถูกตั้งคำถาม เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ที่ห้ามจัดการจัดการแข่งขันกีฬามวยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้จัดยืนยันไม่ได้ใช้ความรุนแรงและคิดว่าไม่น่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย
กิจกรรมของไฟต์คลับ ไทยแลนด์ ไม่ได้ระบุอายุผู้สมัคร จึงมีตั้งแต่วัยรุ่น ไปจนถึงวัยกลางคน การชกมวยจะมีการบันทึกภาพ และถูกอัพโหลดผ่านสังคมออนไลน์ มีชกมาแล้วกว่า 100 คู่ อย่างผู้ชายคนนี้ เคยชกในเวทีนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง บอกว่าชื่นชอบกีฬามวย ถือเป็นการออกกำลังกาย และตลอดการชกไม่มีการใช้ความรุนแรง
แม้คู่ชกจะมีอุปกรณ์อย่างฟันยาง และนวมอ่อน ใส่เพื่อป้องกันตัวแล้ว แต่ที่ปรึกษาสถาบันประสาทวิทยาระบุว่า อาจยังไม่เพียงพอ เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่มีอาวุธหนัก เช่น ศอก หมัด เข่า ที่มีความรุนแรง และมีศักยภาพการทำลายสูง หากโดนจุดสำคัญ เช่น คอหอย ท้อง และสมอง จะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
ที่ปรึกษาสถาบันประสาทวิทยาบอกด้วยว่า 1 หมัดของคู่ต่อสู้ หากต่อยได้ถูกจุด และแรงมากพอ ทำให้ผู้ถูกชกเสียชีวิตได้ การต่อยบริเวณหน้ามีโอกาสที่สมองจะกระทบกระเทือน ทำให้เซลล์สมองเสียหาย การถูกต่อยซ้ำๆ ที่เดิมติดต่อกัน จะทำให้สมองเสื่อมจากการบาดเจ็บเรื้อรัง และรักษาไม่ได้ และแม้จะมีอุปกรณ์ครบครัน แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่น นักมวยอาชีพกว่าร้อยละ 90 ต้องมีอาการบาดเจ็บทางสมอง.-สำนักข่าวไทย