กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- ทนายนำฝนชายไม่สมประกอบ ผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ คดีน้องต้าแง พร้อมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดี 12 ตำรวจสุพรรณบุรี ตั้งแต่ผู้การฯ ลงมา ระบุบกพร่องทางสมองตั้งแต่เกิด ไม่ควรเชื่อถือคำพูดใดๆ
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พานายฝน ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ เด็กชายซูลุย ผิว หรือ ต้าแง ชาวเมียนมา อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตในไร่อ้อย จังหวัดสุพรรณบุรี แจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม กว่า 12 นาย รวมทั้งแพทย์ที่ลงความเห็นว่าคำให้การของนายฝนเชื่อถือได้ ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่ปลอมแปลงเอกสาร กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ฐานที่บกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนแถลงข่าวและออกหมายจับนายฝน ข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจาก คดีมีการสอบสวนโดยชี้นำพยานให้เป็นไปตามความต้องการของพนักงานสอบสวน และละเว้นสอบสวนพยานบางปาก อีกทั้งยังมีการไปควบคุมตัวนายฝนที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์อย่างไม่ถูกต้อง มีการให้นายฝนพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบหมายจับ ทั้งที่นายฝนไม่อยู่ในสภาพเช่นคนปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบสวนทางวินัยกับตำรวจชุดดังกล่าวแล้ว
ขณะที่นายฝน เล่าว่า ระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ตำรวจได้ใช้เชือกมัดมือ ตบหน้า และใช้บุหรี่จี้ที่ข้อมือด้วย
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า จากที่นายฝนได้พูดจาและเล่าเรื่องราวกับสื่อมวลชน ซึ่งการพูดจาวกไปวนมา เรียบเรียงเหตุการณ์ไม่ได้ เป็นการพิสูจน์ได้ว่า นายฝนไม่ได้อยู่ในสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป ซึ่งผลการตรวจสติปัญญาของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระบุว่า นายฝนเป็นคนปัญญาอ่อน อายุเทียบเท่าเด็กอายุ 7 ขวบ แต่ตำรวจชุดที่ทำคดีนึ้กลับไม่สอบสวนพยานให้ครบถ้วนกระบวนความ ซึ่งขณะนี้คดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว เนื่องจากตำรวจยื่นคำร้องขอปล่อยตัวต่อศาล เนื่องจากนายฝนไม่อยู่ในสภาพของคนปกติ คดีนี้ถือเป็นความบกพร่องของตำรวจชุดทำคดี จึงจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย