กรุงเทพฯ 25 พ.ย.-ผอ.สถาบันจิตเวชฯ สมเด็จเจ้าพระยา รับผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่ เป็นคนไข้ในโรงพยาบาลจริง แต่อยู่ในระหว่างเพิ่งเริ่มกระบวนการรักษา ไม่สามารถเปิดเผยหรือระบุโรคที่ป่วยได้แน่ชัด ย้ำผู้ป่วยทางจิตทุกคนก่อเหตุรุนแรงทำร้ายคนอื่นได้น้อยมาก มีแค่ป่วยจิตหูแว่ว ประสาทหลอน ติดสารเสพติด และบุคลิกภาพผิดปกติ ถึงทำได้
นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผอ.สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวถึงกรณีเหตุมาตุฆาตลูกชายฆ่าหั่นศพแม่ของตนเอง จากนั้นยิงตนเองเสียชีวิต ว่าแม้ข้อมูลจากตำรวจจะระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนไข้รับการรักษาที่สถาบันจิตเวชฯ สมเด็จเจ้าพระยา แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าป่วยอะไร เนื่องจากอยู่ในกระบวนการเริ่มต้นรักษา โดยคนไข้มารักษาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น จึงยังไม่สามารถระบุอะไรได้ และอาจเป็นได้ว่าเพิ่งรับยาไปไม่นาน
ทั้งนี้ คนไข้ที่มีอาการป่วยทางจิต จะก่อเหตุทำร้ายคนอื่นถึงแก่ความตายนั้น ยืนยันว่ามีเกิดขึ้นได้ แต่น้อยมาก มีแค่ 3 อาการเท่านั้น ได้แก่ 1.ป่วยเป็นโรคจิต มีอาการหูแว่ว ประสาทหลอน สูญเสียการสั่งการ กระทำโดยไม่รู้ตัว 2.มีอาการใช้สารเสพติดร่วม ทำให้เกิดการกระทำรุนแรง 3.มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ถึงจะกระทำรุนแรงกับผู้อื่นได้
นพ.ธรณินทร์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ของการกระทำรุนแรงในผู้ป่วยทางจิต เกิดจากความหวาดระแวง กลัวคนมาทำร้าย และไม่สามารถควบคุมตนเอง ต้องใช้ยาระงับ ปัจจุบันในการรักษาอาการทางจิต มีความก้าวหน้าไปมาก มีทั้งยาฉีด ยารับประทาน แต่ผู้ป่วยต้องได้รับยาอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคนไข้ต้องไม่ขาดยา
ทั้งนี้ สำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยทางจิต จิตแพทย์จะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวกับญาติ หรือคนใกล้ชิดเสมอว่า ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เวลาไหนมีอารมณ์โกรธ หรือกระทำอย่างไร ที่จะก่อให้เกิดการกระตุ้นทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์รุนแรง.-สำนักข่าวไทย