ตาก 9 เม.ย.-สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือดีขึ้นตามลำดับ แต่ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกิดไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงเสียหายกว่า 200 ไร่ คาดชาวบ้านเผาป่า
ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเกิดไฟไหม้พื้นที่ป่าอย่างรุนแรง ที่เชิงเขาเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยลึก ติดกับหมู่บ้านแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พื้นที่ป่าถูกไฟเผาผลาญไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ เจ้าหน้าที่สนธิกำลังดับไฟ แต่รถดับเพลิงเข้าไปไม่ถึงจุดศูนย์กลางของต้นเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องใช้การเดินเท้าลัดเลาะภูเขาสูงชันเข้าปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก จนสามารถควบคุมไฟได้ในวงจำกัด แต่ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยง เพื่อป้องกันไฟปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดถึง 41 องศาฯ ในช่วงกลางวัน ส่วนสาเหตุของไฟป่าในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่ามาจากชาวบ้านลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่า ขณะที่นายอำเภอแม่สอด สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอด สนธิกำลังกับทหาร หน่วยดับไฟป่าหลายสิบนาย เข้าปฏิบัติการเดินเท้าลาดตะเวน พร้อมจัดกำลังเฝ้าพื้นที่ป่าจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้เป็นวันครบ 1สัปดาห์ หลังจากนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เร่งรัดการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าสถานการณ์หมอกควันไฟป่าเริ่มคลี่คลาย จุดฮอตสปอตทั้ง 9 จังหวัดลดเหลือ 219 จุด จังหวัดที่ไม่เกิดจุดความร้อน คือ ลำพูน ส่วนที่เชียงใหม่ ลดเหลือ 27 จุด ผลจากจุดฮอตสปอตที่ลดลง ทำให้คุณภาพอากาศที่เชียงใหม่เช้าวันนี้ดีขึ้น เริ่มมองเห็นดอยสุเทพ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จาก 3 สถานีตำรวจวัดในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ เฉลี่ยอยู่ที่ 48-69 ไมโครกรัม อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
พลโทสุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 สรุปผลการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่าสถานการณ์จุดความร้อนลดลงถึงร้อยละ 91 สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับที่น่าพอใจ มีการจัดกำลังเข้าปฏิบัติงานใน 9 จังหวัด กว่า 5,700 นาย เป็นกำลังทหาร 1,700 นาย ที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชนจิตอาสา มีการใช้อากาศยานสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประกอบด้วยอากาศยานกองทัพบก 5 ลำ บินดับไฟป่า 72 เที่ยว พื้นที่ดับไฟ 260 ไร่ และอากาศยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3 ลำ ปฏิบัติภารกิจทิ้งน้ำดับไฟป่าในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปางและเชียงรายกว่า 160 เที่ยว ใช้ปริมาณน้ำกว่า 80,000 ลิตร.-สำนักข่าวไทย