ดอนชี้เจ้าหน้าที่ทูตทำผิดหลักการทางการทูต เตรียมเชิญมาทำความเข้าใจ

ทำเนียบฯ 9 เม.ย.- รมว.กต. ชี้ เจ้าหน้าที่ทูตสังเกตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก “ธนาธร” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ผิดหลักการทางการทูตของสหประชาชาติ เพราะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมของไทย หากมีข้อสงสัย สถานทูตต้องสอบถามมายังกระทรวงต่างประเทศ แต่กรณีนี้ไม่มีการสอบถามมา ระบุจะต้องเชิญสถานทูตเข้ามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง


ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทูตในหลายประเทศเข้าไปสังเกตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ตามมาตรา116 ในคดีที่เกิดเมื่อปี2558  ที่ สน.ปทุมวันว่า ในเรื่องนี้คงจะต้องเชิญเจ้าหน้าที่ทูต เข้ามาพูดคุย เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ เป็นการกระทำที่ผิดหลักทางการทูตของสหประชาชาติและในหลาย ๆ ประเทศ ยกเว้นจะเข้ามาได้ต่อเมื่อมาติดตามในเรื่องของคนประเทศนั้น ๆ ที่มีปัญหาในประเทศไทย พร้อมยกตัวอย่างถ้ามีการเดินขบวนในประเทศอื่น  ๆ เราก็ทำได้แค่อยู่ห่าง ๆ และไกล ๆ  เพื่อรับรู้ในภาคใหญ่โดยจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องภายในของประเทศอื่น 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หากคนในประเทศเข้าไปเชิญเจ้าหน้าที่ทูตต่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์นั้นตามหลัก จะไม่มีการเชิญ และเชิญไม่ได้เพราะในเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นสถานทูตจะต้องเข้าใจตามหลักการปฏิบัติในหลายประเทศ ถ้ามีกรณีที่สงสัยหรือไม่เข้าใจ หรือไม่กระจ่างสถานทูตจะเป็นผู้ถามมายังกระทรวงการต่างประเทศ ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ทูตไปสังเกตการณ์ได้หรือไม่ตามคำเชิญดังกล่าว ไม่ใช่เพียงแต่ตามมารยาท แต่เป็นตามหลักระเบียบกฎเกณฑ์ปกติสากล และกรณีของนายธนาธร สถานทูตไม่ได้สอบถามมายัง กต. แต่อย่างใด  ต่อจากนี้จะมีการเชิญสถานทูตเข้ามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง


ส่วนกรณีที่นายธนาธรจะขึ้นศาลทหาร ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่โดยปกติจะเปิดเป็นสาธารณะอยู่แล้ว โดยจะเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนซึ่งไม่เกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนเจ้าหน้าที่ทูตจะเข้าไปนั่งฟังได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของศาล และในเรื่องของการไต่สวนเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย