fbpx

ยายหัวร้อนไม่จบ แปะป้าย “ควายจอด” อีก

ลำปาง 8 เม.ย.-พบอีก!!! รถจอดข้างบ้านยายหัวร้อนถูกแปะป้าย “ควายจอด” อีกครั้ง ขณะที่ประชาชนต่างร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย


วันนี้ (8 เม.ย.) ที่โรงเรียนลำปางกัลยาณี มีผู้ปกครองพาบุตรหลานมามอบตัวจำนวนมาก ทำให้มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรไปมา รวมถึงบริเวณซอย 2 ซึ่งอยู่หน้าโรงเรียนและมีรถจอด 2 ฝั่งถนน แต่จุดที่เคยเกิดปัญหา คือ บริเวณท้ายซอย ซึ่งจะทะลุไปยังถนนรอบเวียง พบว่ามีรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาจอดบริเวณข้างบ้านของยายอายุ 90 ปี และล่าสุดมีการแปะป้ายกระดาษข้อความ “ควายจอด” ทุกคัน ถือเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่สามารถแก้ไขไม่ได้


ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศราวุธ วะเท รองผู้กำกับการดูแลงานจราจร สภ.เมืองลำปาง พร้อมเทศกิจ ได้นำสีขาว-แดง แสดงสัญลักษณ์ “ห้ามจอด” มาทาขอบฟุตบาทบริเวณทางโค้ง ซึ่งเป็นทางร่วมทางแยกของถนนรอบเวียงทั้ง 2 ฝั่งยาวประมาณ 10 เมตรมาถึงบริเวณที่กระบะของลูกชายยายจอดทิ้งไว้ แต่บริเวณที่เป็นปัญหา เจ้าหน้าที่ได้ยกกระถางต้นไม้ เก้าอี้และแท่งปูนที่ยายนำมาวางขวางไว้บนถนนออก พร้อมกับทาสีบริเวณขอบทางเท้าด้วยสีขาว-ดำ ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนจอดรถได้ตลอดแนว

ซึ่งในวันดังกล่าวรองผู้กำกับการ สภ.เมืองลำปาง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยกับยายแล้ว แม้ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เดิมจุดนี้ประชาชนมาจอดรถก็เกิดปัญหา และขณะนี้เจ้าหน้าที่นำสีดำมาทาเพื่อให้ประชาชนจอดรถได้ การแก้ปัญหาแนวทางนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่? ซึ่ง พ.ต.ท.ศราวุธ ตอบว่าคงไม่มีปัญหาเพราะคุยกันแล้ว


จนกระทั่งถึงวันนี้ที่พบว่ามีรถของผู้ปกครองมาส่งลูกหลานรายงานตัว แต่ก็ถูกแปะป้าย “ควายจอด” และข้อความอื่นๆ มาแปะบริเวณหน้ารถเช่นเคย ซึ่งประชาชนที่อยู่ละแวกดังกล่าวขณะนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการใดๆ ตามกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการนำสิ่งของ อาทิ กระถางต้นไม้ หรือเก้าอี้ มาวางขวางบนถนนสาธารณะ ซึ่งถือว่าผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง รวมถึงกรณีรถกระบะของลูกชายยายที่นำมาจอดทิ้งไว้นานหลายปี อีกทั้งไม่มีการต่อภาษี ซึ่งเท่ากับว่าเป็นซากรถ และผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย