ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว
ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง
ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง เพราะนั่งร่วมกับศพมาตลอดทั้งคืน โดยไม่ทราบว่าเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อไร จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ แต่พบบริเวณขาซ้ายมีร่องรอยฟกช้ำและมีเลือดไหลออกมาจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะมีโรคประจำตัว
ผลชันสูตรผู้เสียชีวิตเกิดจาก “แบคทีเรียกินเนื้อคน”
หลังจากนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรศพที่โรงพยาบาลลำปาง ใบชันสูตรศพระบุว่าเสียชีวิตจากการติดเชื้อทางกระแสเลือด และทราบมาว่าเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน
โดยญาตินำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลนครลำปาง แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่ารู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายมาจากไปกะทันหัน แต่ยังติดใจในสาเหตุการตาย
ด้านยายของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หลานชายไปปฏิบัติธรรมที่ อ.เถิน และขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาในตัวเมืองลำปาง ระหว่างนั้นประสบอุบัติเหตุรถแฉลบ ทำให้มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย หมอเย็บที่ต้นแขนหลายสิบเข็ม แต่ไม่แน่ใจว่าหลังจากนั้นจะมีการติดเชื้อที่ตามบาดแผลหรือไม่ และเมื่อเดือนมีนาคม เคยบ่นว่าปวดหัว หมอวินิจฉัยว่าติดเชื้อโรคงูสวัด แก้วหูทะลุ และปากเบี้ยว รักษาอาการมา 2 เดือน จนหายดี จึงทำให้แม่ไม่เชื่อว่าลูกจะมาติดเชื้อจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน
โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือโรคเนื้อเน่า เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง มีความรุนแรงมาก และอันตรายถึงชีวิตหากรักษาไม่ทัน เพราะเชื้อจะทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว มักพบบริเวณแขนและขา บริเวณฝีที่เย็บและลำตัวและผู้ป่วยมักมีประวัติได้รับอุบัติเหตุ.-สำนักข่าวไทย