พรรคประชาธิปัตย์ 8 เม.ย.- “สมชัย” เปิดสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 16 พรรค ได้ ส.ส. ไม่ฟันธงสูตรใครถูกต้องที่สุด เตรียมส่งสูตร กกต ภายในสัปดาห์นี้
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวกับสื่อมวลชนอธิบายวิธีคำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คำนวนอย่างไรไม่ให้ขัดรัฐธรรมนูญ โดยนายสมชัย กล่าวว่า หัวใจหลักของการคำนวณ จะต้องอ้างอิงกับ รัฐธรรมนูญ มาตรา91 และกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 จากที่ตนลองคำนวณจะมีพรรคการเมืองที่มีโอกาสได้จำนวน ส.ส. 16 พรรค ต่างจากการคำนวนของกกต ที่เปิดเผยล่าสุดว่า จะมี 25 พรรคการเมืองที่จะมีโอกาสได้ ส.ส. ส่วนจุดที่ทำให้เกิดความต่าง คือการคำนวณในมาตรา 128 (5) ที่ระบุว่า จะต้องไม่มีพรรคการเมืองใด มีจำนวน ส.ส.เกินจำนวนที่แต่ละพรรคพึงมีจากการคำนวณ โดยไม่จัดสรรให้พรรคที่มีคะแนนต่ำว่าเกณฑ์ ที่จะได้รับ ส.ส. หรือ คะแนนต่ำกว่า 71,057.498 คะแนน
นายสมชัย กล่าวว่า วิธีคิดที่แตกต่างของแต่ละฝ่ายไม่ได้มีปัญหาที่กฎหมาย แต่อาจเกิดจากการไม่ได้ทำความเข้าใจ และเชื่อว่าหลังจากนี้อาจมีเงื่อนไขใบเหลือง ใบส้ม ที่ส่งผลต่อคะแนน โดยเสนอให้ กกต. เปิดเวทีรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ในช่วงเวลา 1 เดือนที่เหลือ ก่อนการประกาศรับรอง ส.ส.ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ โดยต้องไม่ยึดวาทกรรมว่าทุกคะแนนเสียงไม่ทิ้งน้ำ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่กำหนดมาในวิธีคิดอาจผิดพลาดก็ได้ แต่สุดท้าย กกต.เป็นผู้ตัดสินใจและจะต้องรับผิดชอบต่อการเลือกใช้สูตรในการคำนวณ
นายสมชัย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีใครกดดัน กกต. ไม่ว่าจะใช้สูตรใด แต่ กกต. ต้องรับผิดชอบกับผลการใช้สูตรนั้น และหาก กกต.ใช้สูตรคำนวนผิด จะถือว่าบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ดูที่เจตนา หากผิดโดยตั้งใจ ก็ต้องพิจารณาตัวเอง อีกทั้ง การคำนวนผิด ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ส่วนที่มีข้อเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น นายสมชัย กล่าวว่า การจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความจะต้องเกิดจากความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานราชการ ส่วนตัวเชื่อว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความในช่วงนี้คงเป็นไปไม่ได้ และภายในสัปดาห์นี้ ตนตั้งใจจะนำเอกสารรูปแบบวิธีการคิดคำนวณส่งให้ กกต.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากวิธีการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของนายสมชัย ส่งผลให้มี 16 พรรคการเมือง ที่ได้ ส.ส. ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ มีสิทธิได้ ส.ส. 118 คน พรรคเพื่อไทย 137 คน พรรคอนาคตใหม่ 86 คน พรรคประชาธิปัตย์ 55 คน พรรคภูมิใจไทย 52 คน พรรคเสรีรวมไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคละ 11 คน พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคประชาชาติ พรรคละ 6 คน พรรคเพื่อชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคละ 5 คน พรรคชาติพัฒนา 3 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 คน และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคพลังปวงชนไทย และพลังชาติไทย พรรคละ 1 คน ซึ่งพรรคเล็กกว่า 10 พรรคที่ได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จากเดิมที่มีสิทธิได้รับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคละ 1 คน ก็จะไม่ได้เก้าอี้ ส.ส. ในสภา.-สำนักข่าวไทย