ย้อนรอยคดี นพ.สุรพงษ์ แก้ไขสัญญาสัมปทานเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป


กทม. 25 ส.ค. – ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 1 ปี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีไอซีที โดยไม่รอลงอาญา คดีแก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทในเครือชินวัตร


25-8-2559 18-43-07 25-8-2559 18-42-18

ย้อนรอยคดีอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ที่ลดสัดส่วนการถือหุ้นของ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทในเครือชินวัตร ตามที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 3 คน ประกอบด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีไอซีที นายไกรสร พรสุธี อดีตปลัดกระทรวงไอซีที และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ และอดีตปลัดไอซีที ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157


25-8-2559 18-41-39 25-8-2559 18-42-30

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 ที่บริษัท ชินแซทเทลไลท์ หรือบริษัท ไทยคมฯ ในปัจจุบัน ได้ทำหนังสือไปยังกระทวงไอซีที ขออนุมัติลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น ลงจากเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 เป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 โดยให้เหตุผลว่าต้องการหาผู้ร่วมลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันธุรกิจ และเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2547 นพ.สุรพงษ์ อนุมัติให้แก้สัญญาตามที่นายไกรสร ปลัดกระทรวงเสนอ และมีการลงนามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.47 ลดสัดส่วนการถือหุ้นของ “อินทัช” ใน “ไทยคม” เหลือร้อยละ 40 โดยไม่เสนอเข้า ครม.พิจารณา

25-8-2559 18-43-38


หลังรัฐประหารปี 2549 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา ก่อนส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งชี้ว่าจำเลยทั้ง 3 ราย มีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้แก่ “กลุ่มชินคอร์ป” มีความผิดทางอาญา และส่งเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลฎีกา

แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งวันนี้ศาลมีคำพิพากษาจำคุก นพ.สุรพงษ์ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอีก 2 คน คือ นายไกรสร พรสุธี และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 5 ปี เนื่องจากศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้งสามที่มีหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์รัฐ แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายกับสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ ก.ไอซีที เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานจากรัฐ

ก่อนหน้านี้ นพ.สุรพงษ์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา คดีแทรกแซงการแต่งตั้งบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย สมัยดำรงตำแหน่ง รม.คลัง ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน