ศาลฎีกาฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดี “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” ร่ำรวยผิดปกติ

กทม. 26 ก.ย. – ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดี ป.ป.ช.ยื่นฟ้องนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดคมนาคม จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ขณะที่นายสุพจน์ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง  


ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา เนื่องจากอยู่ระหว่างทำคำวินิจฉัยกลางในคดีนี้ ซึ่งคำวินิจฉัยกลางมีความยาว 30 หน้า คาดว่าเวลาอ่านกว่า 1 ชั่วโมง

นายสุพจน์ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม จำเลยในคดีจงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟังคำพิพากษาตามเวลาที่ศาลนัดหมาย 09.30 น. โดยช่วงเช้าองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ได้ประชุมเพื่อนำคำวินิจฉัยส่วนตนมาร่วมลงมติและจัดทำคำวินิจฉัยกลาง ก่อนจะออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาในเวลาประมาณ 12.00 น. คำวินิจฉัยกลางมีความยาวประมาณ 30 หน้า คาดว่าเวลาอ่านกว่า 1 ชั่วโมง 


คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 เกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นบ้านนายสุพจน์ และถูกจับกุมได้ แต่นายสุพจน์ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินของกลางดังกล่าวได้ ป.ป.ช.จึงชี้มูลความผิดในข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ กว่า 64 ล้านบาท และส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลอาญายึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน  กระทั่งศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินของนายสุพจน์ กับพวก ตกเป็นของแผ่นดิน และมีการต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์  

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตามคำร้องของอัยการสูงสุด 19 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น กว่า 46 ล้านบาท ของนายสุพจน์ และที่มีชื่อของภรรยา บุตรสาว และบุตรเขย เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นนั้นตกเป็นของแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.   

และในชั้นศาลอุทธรณ์ยังเห็นว่านอกจากทรัพย์สินกว่า 46 ล้านบาท ควรนำบัญชีเงินฝากรวม 3 บัญชี ที่ปิดแล้วกว่า 15 ล้านบาท และรถยนต์มูลค่า 3 ล้านบาท รวมมูลค่า 64 ล้านบาท


ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัย วันพรุ่งนี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานัดอ่านคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบจิ๋วแต่แจ๋ว จะกันพื้นที่บริเวณด้านหน้าศาลฎีกาเป็นเขตเซฟโซน เชื่อว่าจะยังมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันใช้แผน รักษาความปลอดภัยเข้มเหมือน 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นการข่าวยังไม่มีอะไรน่ากังวลใจ แต่ก็ไม่ประมาท ทำเต็มรูปแบบ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาหรือไม่มา แต่ก็ได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว

คาดว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะเดินทางมาดูแลความเรียบร้อยที่นี่ด้วยตัวเอง ทั้งนี้คาดว่าการอ่านคำพิพากษาคดีของนานสุพจน์ในวันนี้จะแล้วเสร็จช่วงบ่าย. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วันเคลียร์ซากตึก สตง. ก่อนส่งคืนพื้นที่

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วัน เคลียร์พื้นที่ซากอาคาร สตง. เพื่อค้นหาผู้สูญหายได้หมด ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป

บราซิลทำลายแผนวางระเบิดฟรีคอนเสิร์ต ‘เลดี้ กาก้า’

ตำรวจบราซิลทำลายแผนโจมตีงานฟรีคอนเสิร์ตของ “เลดี กากา” ที่จัดขึ้นที่บริเวณชายหาดโคปาคาบานา นครริโอเดจาเนโร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มวางแผนก่อเหตุเป็นพวกเครือข่ายดิจิตอลที่สนับสนุน