รมว.สธ.ร่วมติดตามสถานการณ์ฝุ่นภาคเหนือ

สธ.2เม.ย.-สธ.ให้ รพ.ทุกแห่งใน 8 จังหวัดภาคเหนือ จัดเตรียมห้องสะอาดพร้อมรองรับผู้ป่วยและประชาชนกลุ่มเสี่ยง กำชับสถานบริการในพื้นที่ ส่งทีมหมอครอบครัวดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และอสม.เคาะประตูบ้านให้คำแนะนำประชาชน แจกหน้ากากอนามัยกลุ่มเสี่ยงแล้วกว่า8 แสนชิ้น


วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ ติดตามหาแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองในเขตภาคเหนือร่วมกับคณะนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ให้ รพ.ศูนย์ ,รพ.ทั่วไป  ,รพ.ชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่มีทั้งหมด 538 แห่ง จัด เตรียมห้องสะอาด (Clean Room) พร้อมรองรับผู้ป่วย และประชาชนกลุ่มเสี่ยง จัดคลินิกเฉพาะดูแลผู้ป่วย ให้ทีมหมอครอบครัวเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และอสม.เคาะประตูบ้านให้คำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันผลกระทบสุขภาพ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหลายแห่งได้ดำเนินงานโครงการ “อสม.เคาะประตูสู้ควันไฟ เพื่อลมหายใจของทุกคน” มี อสม.ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยจำนวน 99,540 คน


รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า สธ.ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ที่ส่วนกลางและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชนจากหมอกควันในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนกลุ่มป่วยและกลุ่มเสี่ยงแล้ว 870,011 ชิ้น รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดหาหน้ากากอนามัยให้ประชาชนทั่วไปมอบหมายปลัดกระทรวงสาธารณสุขติดตามการดำเนิน งานแก้ไขปัญหาของหน่วยงานในสังกัดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่


นอกจากนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความตื่นตัวและตระหนัก รวมทั้งการป้องกันตนเองจากพิษภัยของหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยใช้สื่อทุกชนิด เช่น การแถลงข่าวรวมกับทางกระทรวงมหาดไทย กระทรวงที่เกี่ยวข้อง การแถลงข่าวและการร่วมออกรายการวิทยุและโทรทัศน์ในโอกาสต่างๆ การประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุหลักและวิทยุชุมชน การสื่อสารผ่านเว็บไซต์ ผ่านเฟซบุ๊กของหน่วยงานและทางไลน์กลุ่มต่าง ๆ รวมทั้งการผลิตสื่อสนับสนุน เช่นสปอตวิทยุ แผ่นพับ เป็นต้น

ทางด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก เปิดวอร์รูมดูแลเฝ้าระวังผล กระทบสุขภาพและประชุมทางไกลติดตามสถานการณ์ในภาคเหนือ กำชับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 1 ลงไปช่วยกำกับดูแล และมอบหมายให้อธิบดีกรมการแพทย์ร่วมกับรพ.นพรัตน์ราชธานี จัดคลินิกมลพิษที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพ ติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทางราชการ หากอยู่ในพื้นที่สีเหลือง สีส้ม สีแดง ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงควรพักผ่อนอยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ขอให้เตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับใส่เมื่อต้องออกจากบ้าน หรือทำงานนอกบ้านนาน ๆ ควรใช้ที่มีมาตรฐาน N95 .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน