สธ.27พ.ค.-รมว.สาธารณสุข ย้ำกัญชายังคงเป็นสารเสพติด ตามกฎหมาย เพราะมีทั้งประโยชน์และโทษ ส่วนกรณี รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เปิดให้ผู้ป่วยใช้กัญชา กำลังอยู่ในระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปประชุมร่วมกับองค์การอนามัยโลกที่เจนีวาล่าสุดยังได้หารือถึงประเด็นกัญชาที่พบว่าองค์การอนามัยโลกยังนิยามความหมายของกัญชาเป็นสารเสพติด เนื่องจากกัญชาสายพันธุ์ส่วนใหญ่มีสาร THC ซึ่งเป็นสารเสพติดทำให้เกิดอาการมึนเมา เป็นองค์ประกอบอยู่มากที่สุด ดังนั้นการทำสารสกัดกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จึงมีคำนิยามว่าให้มีสาร THC ไม่เกินร้อยละ0.2 จึงถือว่าปลอดภัย เราจึงมักเห็นผู้ได้รับผลข้างเคียงเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ จากการใช้น้ำมันกัญชา ที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากมีการปนเปื้อนหรือมีสารสกัดTHC เกินมาตรฐาน นั่นเอง
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า ตัวอย่างในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีข้อกำหนดให้มีสาร THCในกัญชาไม่เกินร้อยละ 1 ถ้ามากกว่านี้ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาเท่านั้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีหลักปฏิบัติ คล้ายหลายประเทศในระดับสากล และขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กำลังทำมาตรฐานให้เกิดขึ้น ในการใช้กัญชา รักษาโรค ทั้งอบรมตามหลักวิชาเพื่อ ให้ได้แพทย์ที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง เพื่อสามารถสั่งยารักษาผู้ป่วยได้ตามเป้าหมาย
รมว.สาธารณสุข กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณี รพ.หนองฉางที่มีการใช้สารสกัดกัญชารักษาโรค แพทย์ก็ต้องทำตามระเบียบนี้ ซึ่งกรณีที่มีคนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งก็ขอให้หันมาดูกฎระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามจัดให้เกิดมาตรฐานและความถูกต้องรวมทั้งเกิดความปลอดภัย
‘กรมการแพทย์จะพยายามจัดอบรม แพทย์ เภสัชกรและผู้เกี่ยวข้องในทุกระดับ ขอให้ทุกคนใจเย็นๆเพราะเรื่องนี้ต้องมีมาตรฐาน ให้มากที่สุด’ รมว.สาธารณสุข กล่าว .-สำนักข่าวไทย