กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ผู้ว่าฯ ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยพื้นฐานแกร่ง แม้มีปัจจัยกดดันจากภายนอก และการตั้งรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจน คาดโตได้ร้อยละ 3.8 พร้อมจับตาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานเสวนา “จับชีพจรเศรษฐกิจโลก เจาะแนวโน้มเศรษฐกิจไทย” ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.8 ชะลอลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวลดลง จากสงครามการค้า Brexit และการปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีผลทำให้การส่งออกไทยขยายตัวชะลอลงโตร้อยละ 3 แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่าจะรวดเร็วแค่ไหน หากจัดตั้งได้เร็ว ก็จะเป็นผลดีต่อการลงทุนให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม มองว่าไม่ว่าพรรคการเมืองใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็จะสานต่อโครงการลงทุน เพราะมีนโยบายเศรษฐกิจไม่ต่างกันและโครงการได้ประมูลจนเริ่มก่อสร้างแล้ว ส่วนในช่วงที่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เชื่อว่า รัฐบาลปัจจุบันยังมีอำนาจเต็มและมีเครื่องมือที่จะดูแลภาวะเศรษฐกิจได้
ส่วนการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณา 3 ด้าน คือ เงินเฟ้อ เสถียรภาพเศรษฐกิจ และอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.75 ถือเป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ซึ่ง กนง.จะพิจารณาโดยดูข้อมูลรอบด้านและขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา ซึ่งมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้น ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา
นายวิรไท กล่าวด้วยว่า ธปท.กำลังติดตามดูสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยกำชับให้ระมัดระวังและรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้มีการอนุมัติสินเชื่อแบบมีเงินทอนเหมือนที่เคยเกิดกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยจะประเมินสถานการณ์ก่อนการพิจารณว่าจำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมเหมือนสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือไม่ โดยย้ำว่าการออกมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้านหลักแรก แต่ต้องการดูแลบ้านในสัญญาที่ 2-3 ไม่ให้มีการเก็งกำไร. – สำนักข่าวไทย