สนพ.รับฟังความเห็นมาตรฐานโครงข่ายระบบท่อก๊าซชีวภาพ

กรุงเทพฯ 26 ส.ค.-สนพ. รับฟังความเห็นมาตรฐานโครงข่ายระบบท่อก๊าซชีวภาพ หวังช่วยลดการใช้แอลพีจีในครัวเรือนและอุตสาหกรรม และลดความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพจากก๊าซไข่เน่า


นายทวารัฐ สูตะบุตร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น โครงการพัฒนามาตรฐานโครงข่ายระบบท่อก๊าซชีวภาพและศักยภาพการนำไปใช้ในชุมชน/นิคมอุตสาหกรรม (Local Gas Grid) ว่ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัยพัฒนาเรื่องก๊าซชีวภาพมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งการพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมในทุกประเภทของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น  เศษอาหาร ขยะอินทรีย์ชุมชน น้ำเสียฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จะใช้ภายในกิจการของตนก่อน เมื่อเหลือจะขายเข้าระบบสายส่งของการไฟฟ้า หรือเผาทิ้ง หรือกระจายไปยังบ้านเรือนต่างๆ ผ่านทางท่อส่งก๊าซที่ทำขึ้นเองอย่างง่ายๆ ด้วยวัสดุพีวีซี ซึ่งทำเกิดความเป็นห่วงในด้านความปลอดภัยอยู่หลายประการ เพราะก๊าซชีวภาพมีส่วนประกอบของก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) หากมีการรั่วไหลภายในชุมชน คนอาจหมดสติและเสียชีวิตได้จากการสูดดมเพียง 1-2 ครั้ง

“ที่ผ่านมาการส่งก๊าซชีวภาพผ่านท่อ PVC มีการใช้งานอยู่ในระดับ 40 – 50 ครัวเรือน แต่จากผลการศึกษาพบว่ามีสถานประกอบการขนาดใหญ่ 237 แห่ง และฟาร์มปศุสัตว์ 287 แห่ง ที่มีขนาดระบบผลิตก๊าซ 1,000 ลบ.ม. ที่จะสามารถส่งก๊าซให้กับ 200 ครัวเรือน  ซึ่งวิศวกรผู้ออกแบบระบบควรทราบถึงการออกแบบระบบ การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ การควบคุมที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรอบนั้น ซึ่งหากผู้ประกอบการที่มีศักยภาพทั้งหมดตัดสินใจลงทุนระบบเพื่อนำก๊าซชีวภาพส่งและจำหน่ายให้กับชุมชน/นิคมจะสามารถทดแทน LPG ได้ 104,800 kg/วัน คิดเป็น 38,000 ตัน/ปี และช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 1.9 ล้านตันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี” นายทวารัฐกล่าว


นายพฤกษ์ อักกะรังสี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้วิจัยโครงการนี้ กล่าวว่า ในต่างประเทศมีการวางระบบท่อก๊าซเพื่อทำความร้อนและหุงต้มในบ้านเรือนมายาวนานและได้กำหนดมาตรฐานก๊าซชีวภาพที่จะนำเข้าสู่ระบบท่อได้จะต้องเป็นก๊าซที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ จึงนำมาสู่การศึกษาจัดทำมาตรฐานโครงข่ายระบบท่อก๊าซชีวภาพ ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมธุรกิจพลังงาน กรมควบคุมมลพิษ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาช่วยให้คำแนะนำโดยมุ่งเน้นการกระจายก๊าซไบโอมีเทนไปยังผู้ใช้งานปลายทางที่นอกจากจะส่งเสริมการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วยังเชื่อมั่นได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยมีตัวอย่างข้อกำหนดที่สำคัญ เช่น มีความเข้มข้นของปริมาณของมีเทน  (CH4) อย่างน้อยร้อยละ 85 กำหนดวัสดุที่ใช้ทำท่อ วาล์วก๊าซ ประเภทพื้นที่ติดตั้งระบบท่อส่ง การออกแบบท่อส่ง วิธีตรวจค่าความแข็งแรง การก่อสร้างติดตั้ง การควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัย การเติมกลิ่นก๊าซ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย