“เคทิส” โชว์ผลิตไฟจากก๊าซชีวภาพลดต้นทุน จนคว้ารางวัล ASEAN Energy Awards 2018

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. –  “เคทิส ไบโอเอทานอล” โชว์ศักยภาพโครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียนำมาผลิตไฟฟ้า ช่วยลดต้นทุนปีละกว่า 48 ล้านบาท แถมยังช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้คว้ารางวัล ASEAN Energy Awards  2018 ที่สิงคโปร์ ด้านพลังงานทดแทน  


นายพิพัฒน์ สุทธิวิเศษศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เคทิส ไบโอเอทานอล จำกัด หรือ KTBE บริษัทในกลุ่มเกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ในฐานะผู้ผลิตอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทสามารถบริหารจัดการลดต้นทุนพลังงานในกระบวนการผลิตเอทานอลปีละกว่า 48 ล้านบาท จากการดำเนินโครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย โดยนำน้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตเอทานอลมาผลิตก๊าซชีวภาพที่สามารถนำไปผลิตไอน้ำและไฟฟ้า เพื่อเป็นพลังงานในกระบวนการผลิตเอทานอลในรูปแบบพลังงานความร้อนร่วม

สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำด้วยก๊าซชีวภาพ กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนรวม 117 ล้านบาท โดยเป็นการบริหารจัดการน้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตที่มีอยู่ถึง 660,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีมาผลิตก๊าซชีวภาพได้ปีละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร และนำมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับหม้อไอน้ำร่วมกับถ่านหินเพื่อผลิตไอน้ำและไฟฟ้านำกลับมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตของโรงงานผลิตเอทานอล โดยผลิตไอน้ำแรงดันสูงประมาณ 200,000 ตัน แบ่งส่วนหนึ่งประมาณ 160,000 ตัน ไปผลิตไฟฟ้าเพื่อมาใช้ในโรงงานผลิตเอทานอล ไอน้ำอีกส่วนหนึ่งนำไปผ่านวาล์วลดแรงดันนำไปใช้ในการกลั่นเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง นอกจากนี้ ยังนำไอเสียที่ออกจากกังหันไอน้ำของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากลับมาใช้ในการกลั่นเอทานอลเกรดอุตสาหกรรมและต้มฆ่าเชื้อสำหรับระบบหมักแทนการใช้ไฟฟ้า ไอน้ำและไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโครงการสามารถใช้ทดแทนการใช้ถ่านหินได้ 14,200 ตันต่อปี  


“จากการบริหารจัดการของเสียแทนที่จะต้องกำจัดเช่นที่ผ่านมาซึ่งถือว่ามีต้นทุนสูง ก็นำมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ ทำให้ไม่มีต้นทุนวัตถุดิบโครงการนี้จึงมีผลตอบแทนการลงทุนหรือ IRR สูงถึงร้อยละ 34 และมีระยะเวลาคืนทุนเพียง 3 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทแต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณปีละ 290,725 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ “นายพิพัฒน์ กล่าว

จากศักยภาพโครงการดังกล่าว บริษัทจึงได้ส่งเข้าร่วมโครงการ Thailand Energy Awards ในปี 2561 และได้รับการคัดเลือกเข้าชิงรางวัลในเวที ASEAN Energy Awards  2018 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ด้านพลังงานทดแทนในโครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวของบริษัทในการบริหารจัดการด้านต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง