เวียดนาม 26 มี.ค.-ศึกเอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนส์ชิพ 2020 รอบคัดเลือก นัดสุดท้าย ของกลุ่มเค คู่บิ๊กแมตช์แห่งศักดิ์ศรี ระหว่าง “ช้างศึกพลังหนุ่ม” ทีมชาติไทย โคจรมาพบกับ ทีมชาติเวียดนาม เจ้าภาพ
ผลงานของทั้งสองทีมต่างชนะ 2 นัดรวดมี 6 คะแนนเท่ากัน และยังเก็บคลีนชีตเอาไว้ได้ทั้งคู่ แต่ทีมช้างศึกยิงคู่แข่งได้มากกว่าทำได้ 12 ประตู นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนเวียดนามยิงไป 7 ประตู อยู่อันดับ 2 ทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ ที่สนามภายในสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม ใช้เวลาฝึกซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมง เน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพร่างกาย โดย 2 นัดที่ผ่านไทยเอาชนะอินโดนีเซีย 4-0 และชนะ บรูไน 8-0 ส่วนเวียดนาม ชนะ อินโดนีเซีย 1-0 และชนะบรูไน 6-0 เกมนี้จึงถือเป็นการตัดสินแชมป์กลุ่ม
อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมนี้ถือเป็นเกมสำคัญของทั้งสองทีม แม้จะเข้ารอบแล้ว แต่เวียดนามได้เล่นในบ้านโดยมีกองเชียร์เต็มสนาม แต่ไทยก็พร้อมและไม่กดดัน เพราะมาที่นี่เพื่อเป็นแชมป์กลุ่มและจะทำให้ดีที่สุด ชุดนี้นำโดย ศุภชัย ใจเด็ด ที่ซัดประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้วถึง 5 ลูก พร้อมด้วยกัปตันทีมอย่าง ชินภัทร ลีเอาะ,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และสุภโชค สารชาติ แม้จะไม่มีนักเตะบาดเจ็บแต่ไทยมีผู้เล่นที่โดนใบเหลืองติดตัวถึง 6 คน ประกอบด้วย ศุภชัย ใจเด็ด, กฤษดา กาแมน, พัชรพล อินทนี, ชินภัทร ลีเอาะ, สุภโชค สารชาติ และกิตติพงษ์ แสนสนิท ซึ่งต้องระมัดระวังเนื่องจากจบในรอบคัดเลือกนี้ไปแล้ว จะไม่มีการล้างใบเหลือง โดยใบเหลืองจะต่อยอดไปจนรอบสุดท้าย ปี 2020 ที่ประเทศไทย
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทีมชาติไทย นนท์ ม่วงงาม, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์, กฤษดา กาแมน ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรหมสุภะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สกุลชัย แสงโทโพธิ์, วิศรุต อิ่มอุระ, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ
เวียดนาม ชุดนี้ภายใต้การทำทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ มีนักเตะแกนหลักจากชุดที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในเอเชียนคัพ 2019 ถึง 4 คน คือ เหงียน กวง ไฮ, ดวน วาน เฮา, ฮา ดุค ชิน, บุย เตียน ดุง ที่มาผสมผสานกับชุดอาเซียนยู-22 ปี ทั้ง ตราน ธันห์ ซอน กองกลางกัปตันทีม และ ตราน ดันห์ เชือง ดาวซัลโวร่วมในศึกชิงแชมป์อาเซียน ยู-22
เทียบฟอร์มดาวเด่น ทีมชาติไทย ต้องฝากความหวังไว้ที่ “เจ้าอาร์ม”ศุภชัย ใจเด็ด หัวหอกวัย 20 ปี ที่ซัดประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้วถึง 5 ประตู ติดทีมชุดใหญ่ 12 นัดทำได้ 4 ประตู ขณะที่หัวใจสำคัญของเวียดนามเป็น เหงียน กวง ไฮ มิดฟิลด์วัย 21 ปี ที่ติดทีมชาติเวียดนามชุดใหญ่ไป 17 นัด ยิงได้ 6 ประตู และลงสนามในทัวร์นาเมนท์นี้ 2 นัด ทำได้ 1 ประตู
วัดกึ๋นกุนซือ อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนวัย 51 ปี ชาวบราซิเลียน ของทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จในศึกไทยลีก กับการคุมทีมบุรีรัมย์ คว้า 4 ถ้วย และเชียงราย 3 ถ้วย จนได้รับโอกาสพิสูจน์ตนเองกับทีมชาติไทย ยู 23 ด้านปาร์ค ฮัง ซอ เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้วัย 59 ปี เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเวียดนาม U23 ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2017 พาเวียดนามคว้ารองแชมป์ในศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 เมื่อช่วงต้นปี 2018 และคว้าอันดับ 4 ในศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย และพาทีมชาติเวียดนามชุดใหญ่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ในรอบ 10 ปี ล่าสุดได้รับเลือกให้คว้ารางวัลโค้ชแห่งปีของภูมิภาคอาเซียนจากการโหวตของสมาคมนักข่าวทวีปเอเชีย
ครั้งล่าสุดไทยกับเวียดนามชุดนี้เคยเจอกันมาเมื่อเดือนที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ศึกยู-22 ชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2019 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ผลปรากฎว่าทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
หากย้อนไปดูสถิติที่เคยพบกันมาในแมตช์ที่ฟีฟ่าให้การรับรอง ทั้งคู่เคยเจอกัน 4 ครั้ง และเป็นแข้งช้างศึก ที่เอาชนะไปได้ถึง 3 ครั้ง และพลาดท่าพ่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในเกม “เอ็ม-150 คัพ 2017” เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 รอบชิงอันดับที่ 3 ซึ่งเวียดนาม บุกมาชนะได้ถึงถิ่น 2-1 ติดตามกันว่า ไทย กับ เวียดนาม ทีมใดจะเป็นเจ้าอาเซียนในรุ่น ยู 23 เกมคู่นี้จะเตะที่สนามมีดินห์ สเตเดียม ในวันนี้เวลา 20.00 น.-สำนักข่าวไทย