กรุงเทพ ฯ 25 มี.ค. – ตลาดทุนมองการเลือกตั้งออกมาดีเกินคาด เชื่อหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิน 300 เสียง เงินทุนต่างชาติจะไหลกลับไทย 100,000 ล้านบาท
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเดดล็อก ซึ่งขณะนี้มีอยู่เพียง 2 ขั้ว คาดว่าพรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ยังต้องติดตามเสียงสนับสนุนรัฐบาลใหม่หากเกิน 300 เสียง ก็จะเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยประมาณ 100,000 ล้านบาท
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัว เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน น่าจะมีทางออกที่ดี และช่วยสนับสนุนให้การการค้าโลกกลับมาดีขึ้น โดยให้เป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,750-1,800 จุด
“ไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเติบโตไม่เกินร้อยละ 4 แตกต่างกันมากนัก เพราะทุกพรรคการเมืองมีนโยบายเศรษฐกิจคล้ายคลึงกัน ส่วนนักลงทุนต่างชาตินั้น ส่วนใหญ่ให้ความสนใจในภาพรวม เสถียรภาพ และความต่อเนื่องของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ รวมถึงการบริหารประเทศ หากตอบโจทย์เหล่านี้ได้ ก็จะรู้ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติจะกลับมาหรือไม่ จะขยายตัวได้ดีหรือไม่” นายไพบูลย์ กล่าว
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า หลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เชื่อว่า พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่รัฐบาลชุดใหม่จะทำงานด้วยความยากลำบาก เพราะพรรคฝ่ายค้านเข้มแข็งมาก และจำนวน ส.ส.ของรัฐบาลก็ไม่สูงมาก ทำให้การเมืองจะมีความเข้มข้น อย่างไรก็ตาม การเมืองเป็นปัจจัยระยะสั้นที่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ปัจจัยที่ให้น้ำหนักมากกว่า คือ ภาวะเศรษฐกิจโลก หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็จะกระทบตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย คาดว่าหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2/2562 ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลง เพราะผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะออกมาไม่ดี โดยดัชนีมีโอกาสปรับลงมาที่ 1,450-1,500 จุด ดังนั้น แนะนำให้นักลงทุนถือเงินสด เพื่อสะสมหุ้นพื้นฐานดี .-สำนักข่าวไทย