ชลบุรี 27 ส.ค.-แม่พาลูกสาววัย 17 ปีแจ้งความเอาผิดนายจ้างที่อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบ ข่มขืนกระทำชำเรา แถมยังบังคับให้นั่งดูตัวเองมีเซ็กซ์กับภรรยา ตำรวจเตรียมเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน
เมื่อคืนที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ได้พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สินสมุทร์ บุญทัศนา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี อ้างว่าบุตรสาวถูกนายจ้างข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดในบ้านพักหลังหนึ่ง ในซอย 15 ทัพพระยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เป็นมารดา เปิดเผยว่า มีอาชีพทำนาอยู่ที่จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เป็นพี่สาวได้ติดต่อหาคนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่พัทยา ภายในซอย 15 ทัพพระยา โดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท ตนเห็นว่าลูกสาวไม่ได้เล่าเรียนแล้วและกำลังหางานทำอยู่ด้วย จึงตัดสินใจให้ลูกสาวเดินทางมาทำงาน จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้โทรหาลูกสาว ก็พบว่ามีความผิดปกติ เมื่อลูกสาวร้องขอกลับบ้าน ไม่อยากทำงานต่อ จึงสอบถามจนได้ความว่าถูกนายจ้างข่มขืน ตนจึงรีบเดินทางมาพบลูกสาว เพื่อพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
ขณะที่ น.ส.บี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา นายจ้างซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม มียศเป็นสารวัตร ชื่อโจ อายุประมาณ 40 ปี ได้ออกอุบายว่าปวดเมื่อย ให้ตนเข้าไปนวดให้ ตนก็ไม่ได้คิดอะไร จึงเข้าไปพบที่ห้องของนายโจ แต่เมื่อเข้าไปในห้องก็ต้องตกใจ เมื่อพบกับอุปกรณ์เซ็กทอยจำนวนมาก ต่อมานายโจได้ทำทีเปิดวีดีโอโป๊ให้ดู จากนั้นก็ได้ลวนลาม ตนพยายามขัดขืน แต่สู้แรงนายโจไม่ไหว จึงถูกนายโจข่มขืน ต่อมาช่วงดึกนายโจก็ได้เรียกตนเข้าไปพบอีกครั้ง แล้วบังคับให้ตนจับอวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์และลานลาม ทั้งยังบังคับให้ตนนั่งดูนายโจมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาอีกด้วย ตนรู้สึกหวาดกลัวและอึดอัดใจเป็นอย่างมาก จึงบอกความจริงมารดาให้ทราบดังกล่าว
น.ส.บี เล่าอีกว่า ภายหลังจากเกิดเรื่อง ตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงบอกกับนายโจว่าจะขอลากลับบ้านนอก โดยนายโจเป็นคนมาส่งที่ท่ารถทัวร์ พร้อมกับพูดว่ามีเงินซะอย่าง ทำอะไรก็ได้ เงินทำได้ทุกอย่าง พร้อมกำชับไม่ให้ตนนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเล่าให้ใครฟัง และห้ามแจ้งความเป็นอันขาด ก่อนจะยื่นเงินให้ตนจำนวน 1,500 บาทเป็นค่ารถโดยสารกลับบ้านเกิด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว น.ส.บี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางละมุง เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเรียกตัวนายจ้างผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ น.ส.เอ ผู้เป็นมารดา กล่าวด้วยว่า รู้สึกเจ็บใจและเสียใจกับคำพูดของนายโจ เป็นอย่างมาก อีกทั้งกลัวว่าหากนายโจ เป็นตำรวจจริงอย่างที่อ้าง ก็เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน รวมถึงมูลนิธิปวีณาฯ ด้วย เพื่อหวังดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย