เตือนเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงหน้าร้อนขาดน้ำเสี่ยงเกิดโรคระบาด

กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – อธิบดีปศุสัตว์เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังและสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงช่วงฤดูแล้ง อากาศร้อน ขาดน้ำ เสี่ยงเกิดโรคระบาดง่ายขึ้น สั่ง ปศ.เขต1-9 เฝ้าระวังใกล้ชิด พร้อมช่วยเหลือให้คำแนะนำ ฉีดวัคซีน และเตรียมเสบียงสัตว์กว่า 6,000 ตัน 


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศให้ความสำคัญกับการป้องกันและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ช่วงฤดูแล้ง โดยให้คำแนะนำการดูแลสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลให้อาหารสัตว์น้อยลง ประกอบกับอากาศร้อน และการขาดน้ำ เป็นสิ่งกระตุ้นและมีผลให้สัตว์เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น ระดับภูมิคุ้มกันต่ำลง ทำให้เกิดโรคระบาดง่ายขึ้น กรมปศุสัตว์จึงเตรียมพร้อมรับมือโรคสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นช่วงนี้ เช่นโรคปากและเท้าเปื่อย โรคคอบวมในโค – กระบือ โรคสเตรปโตคอกคัสซูอิส โรคท้องร่วง และโรคปากและเท้าเปื่อยในหมู โรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข แมว ส่วนสัตว์ปีก ให้เกษตรกรระมัดระวังโรคในสัตว์ปีก และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเฝ้าระวัง และสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติให้รีบแยกสัตว์ป่วย และแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทราบทันที เพื่อดำเนินการควบคุมโรค 

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ออกหน่วยบริการสัตวแพทย์เคลื่อนที่ รณรงค์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัข แมว เกษตรกรควรให้ความร่วมมือกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคสัตว์ถูกวิธีและครบถ้วน รวมทั้งการถ่ายพยาธิให้สัตว์เลี้ยง และช่วงนี้จะพบแมลงจำนวนมาก โดยเฉพาะแมลงดูดเลือด เช่น เหลือบ และแมลงวันคอก ซึ่งเป็นพาหะของโรคพยาธิในเลือดโค-กระบือ ต้องใช้ยาที่จำเพาะรักษา ซึ่งเกษตรกรอาจป้องกันโดยการทำมุ้งบริเวณคอกเลี้ยงสัตว์ กำจัดมูลและทำความสะอาดคอกสัตว์อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การซื้อโค-กระบือจากตลาดนัดค้าสัตว์ควรมีการกักไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อดูอาการก่อนปล่อยรวมฝูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด 


สำหรับฟาร์มหรือโรงเลี้ยงสัตว์ควรปรับให้มีอากาศถ่ายเทและอยู่ในที่ร่ม ส่วนการดูแล ไก่ เป็ด และหมู ควรเพิ่มวิตามินละลายน้ำ เพื่อให้สัตว์มีร่างกายแข็งแรง ด้านเสบียงสัตว์ กรมปศุสัตว์เตรียมให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยมากกว่า 6,000 ตัน แยกเป็นหญ้าแห้ง 4,974 ตัน หญ้าสด 348 ตัน และหญ้าหมัก 812 ตัน เก็บสำรองไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่ง และคลังเสบียงอาหารสัตว์ประจำตำบล ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีรถบรรทุกขนเสบียงอาหารสัตว์ 201 คัน เวชภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์พร้อมหน่วยสัตว์แพทย์เคลื่อนที่ จำนวน 100 หน่วย และ ถุงยังชีพสำหรับสัตว์จำนวน 3,000 ชุด

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ขอเตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังโรคระบาดสัตว์ช่วงฤดูแล้ง ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้เตรียมพร้อมเสบียงสัตว์ไว้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง หากเกษตรกรมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการดูแลสุขภาพสัตว์ หรือได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งสามารถติดต่อรับคำปรึกษา และขอรับการช่วยเหลือได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ประจำเขต 1-9 ใกล้บ้าน หรือศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร 02-6534444 ต่อ 3315 หรือแอพพลิเคชั่น DLD 4.0.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น