สวนดุสิตโพลระบุประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์

1151561กรุงเทพฯ 28 ส.ค.- สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นของคนไทยต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์” ในภาพรวม พบประชาชนเชื่อมั่น ร้อยละ 72.15 ความเชื่อมั่นในภาพรวมต่อคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 60.94


2 ปี กับการบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมุ่งหวังแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับประชาชนว่าสถานการณ์บ้านเมือง จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปได้ดี เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน และเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการทำงานของรัฐบาล “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,293 คน สำรวจระหว่างวันที่ 22-27 สิงหาคม 2559 สรุปผล ได้ดังนี้

1) ความเชื่อมั่นของคนไทย ต่อ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในด้านต่างๆต่อไปนี้
1.1 ความเชื่อมั่นต่อ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา = 72.15%
(เชื่อมั่นมาก 26.06% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 46.09%)


อันดับ 1 ค่อนข้างเชื่อมั่น 46.09% เพราะ ในช่วง 2 ปี นายกฯมีผลงานให้เห็นหลายเรื่อง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีและรวดเร็ว ฯลฯ
อันดับ 2 เชื่อมั่นมาก 26.06% เพราะ เป็นคนดี ตั้งใจทำงาน เด็ดขาด เอาจริงเอาจัง มีความเป็นผู้นำ ไม่เป็นนักการเมือง ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 19.03% เพราะ ยังคงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ การใช้คำพูด หลายปัญหายังแก้ไขไม่ได้ ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เชื่อมั่น 8.82% เพราะ เป็นนายกฯที่มาจากรัฐประหาร ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่สามารถตรวจสอบได้ ฯลฯ

1.2 ความเชื่อมั่นต่อ คณะรัฐมนตรีในภาพรวม = 60.94%
(เชื่อมั่นมาก 10.21% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 50.73%)

อันดับ 1 ค่อนข้างเชื่อมั่น 50.73% เพราะ การทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะต้องมีผลงาน มีการปรับตำแหน่งและประเมินการทำงาน ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 30.78% เพราะ ส่วนใหญ่เป็นทหาร อาจไม่ค่อยมีประสบการณ์ บางกระทรวงไม่ค่อยมีผลงานให้เห็น ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อมั่นมาก 10.21% เพราะ การทำงานสอดคล้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งเหมือนที่ผ่านมา ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เชื่อมั่น 8.28% เพราะ รัฐมนตรีบางท่านไม่มีผลงาน ไม่เป็นที่รู้จัก ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ฯลฯ


1.3 ความเชื่อมั่นต่อ ผลงานรัฐบาล “ด้านการเมือง” = 65.04%
(เชื่อมั่นมาก 17.17% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 47.87%)

อันดับ 1 ค่อนข้างเชื่อมั่น 47.87% เพราะ สามารถบริหารงานต่าง ๆ ได้ดี บ้านเมืองสงบเรียบร้อยมากขึ้น ทำงานตามนโยบายที่วางไว้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 25.06% เพราะ ปัญหาการเมืองไทยฝังรากลึกมานาน ยังมีความขัดแย้งและไม่โปรงใส ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ยังแก้ไขไม่ได้ ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อมั่นมาก 17.17% เพราะ เป็นรัฐบาลทหารที่มีอำนาจ ทำงานได้คล่องตัว ไม่มีการเรียกร้องคัดค้าน ไม่มีการชุมนุมเคลื่อนไหว ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เชื่อมั่น 9.90% เพราะ ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน ตรวจสอบการทำงานไม่ได้ ฯลฯ

1.4 ความเชื่อมั่นต่อ ผลงานรัฐบาล “ด้านเศรษฐกิจ” = 43.78%
(เชื่อมั่นมาก 5.88% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 37.90%)

อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 39.98% เพราะ ปัญหาเศรษฐกิจแก้ไขได้ยาก ทั่วโลกประสบปัญหาเดียวกัน ประชาชนรายได้น้อย ค่าครองชีพสูง ฯลฯ
อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่น 37.90% เพราะ แนวโน้มการแก้ปัญหาเศรษฐกิจดีขึ้น มีการลดราคาพลังงาน ขึ้นเงินเดือน กระตุ้นการใช้จ่าย ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่น 16.24% เพราะ เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดีขึ้น ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ประชาชนยังมีความเป็นอยู่ลำบาก ฯลฯ
อันดับ 4 เชื่อมั่นมาก 5.88% เพราะ มีทีมแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เก่ง ช่วงครึ่งปีแรกมีผลงานดี มีการส่งเสริมการค้าการลงทุนขนาดใหญ่ ฯลฯ

1.5 ความเชื่อมั่นต่อ ผลงานรัฐบาล “ด้านสังคม” = 66.52%
(เชื่อมั่นมาก 16.40% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 50.12%)

อันดับ 1 ค่อนข้างเชื่อมั่น 50.12% เพราะ การดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดได้รวดเร็ว เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น รัฐบาลให้ความสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 25.14% เพราะ ยังมีปัญหาอยู่มากและหลากหลายรูปแบบ อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ปัญหาสังคมมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อมั่นมาก 16.40% เพราะ ปัญหาสังคมได้รับการแก้ไข มีการจัดระเบียบสังคม มีการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เชื่อมั่น 8.34% เพราะ การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สังคมเสื่อมโทรม มีความเหลื่อมล้ำ ยังมีปัญหาระเบิดและความรุนแรงในภาคใต้ ฯลฯ

1.6 ความเชื่อมั่นต่อ ผลงานรัฐบาลในภาพรวม = 66.66%
(เชื่อมั่นมาก 14.46% + ค่อนข้างเชื่อมั่น 52.20%)

อันดับ 1 ค่อนข้างเชื่อมั่น 52.20% เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น แก้ปัญหาได้รวดเร็ว ทำงานเด็ดขาด ไม่มีการขัดแย้งกันเอง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 24.05% เพราะ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เห็นด้วยกับการทำงาน ยังมีการทุจริตคอรัปชั่น ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อมั่นมาก 14.46% เพราะ ทำงานตามนโยบายที่วางไว้ มีโร้ดแมปการทำงานที่ชัดเจน หลายปัญหาได้รับการแก้ไข มีการพัฒนาประเทศ ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่เชื่อมั่น 9.29% เพราะ ยังไม่มีการเลือกตั้ง ไม่มีผลงานชัดเจน ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ ไม่โปร่งใสในหลาย ๆ ด้าน ฯลฯ

2) “5 อันดับ” ผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประชาชนชื่นชอบ
อันดับ 1 การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นทั้งภาครัฐและเอกชน 75.48%
อันดับ 2 มาตรการทวงคืนผืนป่า ดำเนินการกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 71.31%
อันดับ 3 การดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จัดระเบียบสังคม กวาดล้างยาเสพติด 70.62%
อันดับ 4 การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เพิ่มระดับจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 65.51%
อันดับ 5 ลดราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน 63.36%

3) “5 อันดับ” ผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยังต้องเร่งดำเนินการ
อันดับ 1 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 82.60%
อันดับ 2 การแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ความเป็นอยู่ของประชาชน 78.65%
อันดับ 3 การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดภาคใต้ 73.02%
อันดับ 4 การร่างรัฐธรรมนูญ การร่างกฎหมายลูก การแก้กฎหมาย 67.05%
อันดับ 5 การแก้ปัญหาภาคการเกษตร ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ 62.26%  .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน