กทม. 18 มี.ค. – ผบช.น. สั่งตำรวจหนองค้างพลูดูแลคดีเสี่ยปอร์เช่ ซิ่งปีนบาทวิถีชนสาวท้องสาหัสเพื่อนดับ 1 ราย
เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (17 มี.ค.62) ที่ สน.หนองค้างพลู พ.ต.ท.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สน.หนองค้างพลู เผยถึงคดีที่นายสมเกียรติ ภักดีนอก อายุ 40 ปี เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถซิ่งรถสปอร์ตหรู ปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน เอส สีขาว ทะเบียน 6 กญ 9579 กรุงเทพมหานคร ปีนบาทวิถีพุ่งชนรถ จยย.ที่แล่นสวนทางกันมาบนบาทวิถีหน้าปากซอยพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 5 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. เมื่อช่วงตีหนึ่งวันที่ 15 มี.ค. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและหญิงตั้งครรภ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ได้กำชับให้ทาง สน.หนองค้างพลู ทำสำนวนคดีนี้อย่างรอบคอบตรงไปตรงมา โดยเมื่อช่วงเช้าตนและพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปเก็บพยานหลักฐานซ้ำในที่เกิดเหตุอีก 1 รอบ เบื้องต้นสามารถดำเนินคดีผู้ขับขี่รถปอร์เช่ได้แล้ว 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ส่วนข้อหาเกี่ยวกับการดื่มสุรานั้น ได้ประสานแพทย์ให้ทำการตรวจเลือดแล้ว รอผลพิสูจน์ส่งกลับมา หากพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่โซเชียลมีเดียกำลังกล่าวโจมตีถึงข้อความสนทนาระหว่างพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เกี่ยวกับการพูดถึงเรื่องเมาเหล้าของคนขับรถปอร์เช่ พ.ต.ท.อดุลย์ ระบุว่า เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.หนองค้างพลู ได้เพียง 2 วัน ได้ฟังประเด็นนี้แล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมถึงหัวหน้าพนักงานสอบสวนของโรงพักมาสอบถามทราบว่า ไม่มีใครพูดบอกญาติๆ ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บห้ามให้ข่าวเรื่องคู่กรณีเมาหรือไม่แต่อย่างใด น่าจะเป็นการสื่อสารกันผิดพลาดมากกว่า ตนยืนยันคดีนี้ไม่มีการวิ่งเต้นใดๆ จะดำเนินการต่อไปอย่างเที่ยงตรง โดยให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนนายสมเกียรติ คนขับรถปอร์เช่ ที่รักษาตัวอยู่ใน รพ.พญาไท 3 ตนก็ให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังให้การได้ไม่ละเอียดนัก เนื่องจากบาดเจ็บอยู่ ขณะนี้ทราบว่าญาติๆ ของนายสมเกียรติ ก็เดินทางไปที่ รพ.ศิริราช เพื่อเยี่ยมอาการคนเจ็บและแสดงความจำนงที่จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว. – สำนักข่าวไทย