fbpx

มติเอกฉันท์ ชี้ หัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 14 มี.ค. –  มติเอกฉันท์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้ หัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญการันตี รวมทั้งที่มาของ “พล.อ.ประยุทธ์” มาจากรัฏฐาธิปัตย์ จึงยุติเรื่องร้องเรียน ระบุ กกต.รับสมัคร “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบด้วยกฎหมาย


นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ยุติเรื่องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้ตรวจสอบ พร้อมเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัย ว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ การที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จึงเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 88 มาตรา 89 และมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) หรือไม่ 

นายรักษเกชา กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 5/2543 เกี่ยวกับความหมายของคำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ซึ่งเคยบัญญัติไว้ในมาตรา 109 (11) ของรัฐธรรมนูญ 40 ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่  หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น โดยมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ 1. ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย  2. มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ 3. อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ 4. มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทน ตามกฎหมาย…”


นายรักษเกชา กล่าวว่า คำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” เป็นถ้อยคำเดียวกันกับที่บัญญัติไว้ในมาตรา 98 (15) รัฐธรรมนูญ ว่าจะต้องมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องมีลักษณะครบถ้วนทั้ง 4 ประการตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 

นายรักษเกชา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงสถานะของ พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว แม้ว่าจะมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ  โดยมีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมายก็ตาม แต่ตำแหน่งดังกล่าวได้รับแต่งตั้งโดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้า คสช. บริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศแต่งตั้งหัวหน้า คสช.ลงวันที่ 24 พ.ค. 57 ซึ่งมิใช่เป็นการได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย หากแต่เป็นการได้รับแต่งตั้งที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ

นายรักษเกชา กล่าวว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ หากแต่เป็นตำแหน่งที่ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม  รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นความจำเป็นในช่วงที่จะต้องเปลี่ยนผ่านจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศไปสู่สถานการณ์ปกติ อันเป็นการเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไป โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ ก็ยังคงให้การรับรองอำนาจนี้อยู่ โดยบัญญัติให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญจะเข้ารับหน้าที่


“แสดงให้เห็นได้ว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช.มิได้มีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และมิได้ลักษณะครบถ้วนทั้ง 4 ประการตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมิได้มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” นายรักษเกชา กล่าว 

นายรักษเกชา ยังกล่าวว่า การที่ กกต.ประกาศรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอ จึงเป็นการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 และมาตรา 14 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กรณีนี้จึงไม่มีเหตุที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา 23 พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่คำวินิจฉัยดังกล่าวออกไปแล้วอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายรักษเกชา กล่าวว่า ตอนพิจารณาคำร้อง ผู้ตรวจการแผ่นดินก็พยายามมองในหลายๆ มุม  แต่เมื่อพิจารณาข้อกฎหมายคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผูกพันทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่  ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่าผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาบนพื้นฐานของข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง. – สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร

อิสราเอลแจ้งสหรัฐล่วงหน้า เรื่องเอาคืนอิหร่านวันนี้

อิสราเอลได้แจ้งสหรัฐล่วงหน้าเรื่องจะโจมตีเอาคืนอิหร่านในวันนี้ แต่สหรัฐไม่ได้ให้ความเห็นชอบกับการตัดสินใจของอิสราเอล

ราคาทองคำ-น้ำมันผันผวน หุ้นไทยร่วงหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน

กรุงเทพฯ 19  เม.ย.-ราคาทองคำ-น้ำมันหันผวนหนักหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน หุ้นไทยร่วงกว่า 20 จุด โบรกเกอร์แนะถือเงินสด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำ-น้ำมันเอเชียขยับขึ้นแรง โดยราคาน้ำมันดิบขึ้นถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาทองคำในเอเชีย ขยับขึ้นร้อยละ 1.6 เป็น 2,414.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ตลาดกังวลว่าอิสราเอลจะโจมตีแก้แค้นอิหร่าน เพราะนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่า จะแก้แค้นหลังจากถูกอิหร่านโจมตีหลายระลอก  ในขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ABC News รายงานว่า อิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีดินแดนอิหร่านในช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย.) โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นในหลายพื้นที่ได้แก่ในเมืองอิสฟาฮานทางตอนกลางของอิหร่าน, ในเขตอัสซุวัยดาอ์ทางตอนใต้ของซีเรีย, ในกรุงแบกแดด และในเขตบาบิลของอิรักในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่สื่ออิหร่านรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดที่ท่าอากาศยานในเมืองอิสฟาฮาน แต่ยังไม่รู้สาเหตุ ด้านราคาทองคำในไทยประกาศโดยสมาคมผู้ค้าทองคำเปิดตลาดพุ่งขึ้นทันที 550 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก บาทละ 42,000 บาท  รูปพรรณ ขายออก 42,200 บาท คำนวณจากทองเอเชีย 2,409 ดอลลาร์/ออนซ์ เงินบาท 36.86 […]