คาดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าไทย 100,000 ล้านบาท หากตั้งรัฐบาลราบรื่น

กรุงเทพ ฯ 11 มี.ค.  –  ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย คาดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท หากจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้สำเร็จ ขณะที่ บล.ไทยพาณิชย์แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก โรงพยาบาล นิคมอุตสาหกรรม พลังงาน


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย บรรยายพิเศษ เรื่อง “เงินทุนเคลื่อนย้ายก่อนและหลังเลือกตั้ง” ว่า นักลงทุนต่างชาติกำลังจับตามองผลการเลือกตั้ง หากเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ  มีความมั่นคง และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ แม้ว่าอายุรัฐบาลชุดใหม่อาจจะเพียงแค่ 1-2 ปีก็ตาม เงินทุนต่างชาติก็จะไหลกลับเข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้ว 600,000 ล้านบาท ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่ำกว่าตลาดอื่น ๆ  คาดว่าจะมีเงินไหลเข้าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท แต่จะเป็นเงินทุนระยะสั้นตามอายุของรัฐบาล 

“ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่มีปัญหา ตลาดหุ้นไทยก็จะไม่ฟื้น เพราะสิ่งที่ฝรั่งสอบถามตลอด คือ จะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ จะมีการประท้วงอีกหรือไม่ ซึ่งความจริงฝรั่งไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะต่างชาติคุ้นชินกับการเมืองไทย ขอให้จัดตั้งรัฐบาลได้ มีความมั่นคง “ นายไพบูลย์ กล่าว 


นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้น เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแต่ชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสน้อยมากที่จะถดถอย ขณะที่ธนาคารกลางของโลก 4  แห่ง หรือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  อังกฤษ จีน และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยชะลอลง  และสภาพคล่องในตลาดยังมีอยู่สูง แม้ว่าหุ้นโลกยังอยู่ในภาวะกระทิง หุ้นไทยก็จะเติบโตไปตามศักยภาพ และผลประกอบการ ซึ่งคาดว่าปีนี้โตร้อยละ 7-8 เท่านั้น ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับขึ้นได้ประมาณร้อยละ 10 

ด้านนายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เงินทุนต่างชาติเดือนมีนาคมแผ่วลง เนื่องจากรอความชัดเจนผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประกอบกับติดตามความชัดเจนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งมีแนวโน้มจะคลี่คลายก่อนเส้นตาย 31  มีนาคม 2562  ดังนั้น หุ้นที่แนะนำให้ลงทุนควรเป็นหุ้นที่ความปลอดภัย (Defensive Stock) หุ้นในกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก โรงพยาบาล  นิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งกลุ่มพลังงาน .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง